นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัฐบาลและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ว่า การเจรจาวานนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะมีการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าการจะหาข้อสรุปต่อทางออกของเหตุการณ์ที่ยืดเยื้อมานานภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ทำให้บรรยากาศความขัดแย้งลดลง
"แค่มีการพูดคุยและกล้านำความขัดแย้งมาคุยกันบนโต๊ะ ก็ถือว่าช่วยลดความขัดแย้งไปครึ่งหนึ่งแล้ว แม้การเจรจาจะไม่สามารถตกลง แต่ผมก็เชื่อว่าน่าจะคุยและหาทางออกได้ ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์รุนแรงมานาน จะเสร็จภายใน 3 ชั่วโมง เป็นไปไม่ได้ ทุกคนก็เข้าใจ"ประธานกรรมการ ตลท.กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเจรจารอบสองในวันนี้จะมีการหยิบยกความคิดเห็นของนักวิชาการมาพูดคุยเพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการที่ได้รับฟังนักการเมืองอาวุโสและนักวิชาการก็มองในทิศทางเดียวกันว่ามีทางออก และได้มีการหยิบยกแนวทางหลายแนวทางด้วยกัน
และมองว่าการเจรจาครั้งนี้น่าจะทำให้ประชาชนและนักธุรกิจคลายความเครียดต่อสถานการณ์ลงไปได้ หากเรื่องดังกล่าวสามารถคลี่คลายได้ ก็จะทำให้การลงทุน เศรษฐกิจ ตลาดทุน หรือแม้แต่ภาคการส่งออก ภาคการผลิตก็จะเดินไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตาม นายสมพลไม่เห็นด้วยที่จะพูดถึงเรื่องยุบสภาตอนนี้ ซึ่งช่วงนี้เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว หากยุบสภาก็จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว เพราะอำนาจบริหารจะหยุดชะงักไปชั่วคราว
"อย่าเพิ่งพูดเลยว่าจะยุบสภาเมื่อไร ผมเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศเวลามาลงทุนจะพิจารณาถึงพื้นฐานของประเทศและบริษัทที่มีรากฐานที่มั่นคง นักลงทุนต่างประเทศจะมีความกังวลในเรื่องรัฐประหาร เพราะเห็นว่าเป็นการแก้ไขทางการเมืองไม่ถูกต้อง รวมทั้งการปิดสนามบิน ท่าเรือ และปัญหามาบตาพุด"นายสมพล กล่าว