IRCP คาดปี 53 รายได้รวมโต 25%-กำไรสุทธิมากกว่าปีก่อน,ใช้ TVTต่อยอด 3G

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 1, 2010 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น(IRCP)เดินหน้าลุยธุรกิจโทรคมนาคมหลังปรับกลยุทธ์เมื่อปีก่อน และเห็นสัญญาณการเติบโตของระบบ 3G หาก Operator ได้ใบอนุญาตกันถ้วนหน้า พร้อมมีแผนเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องต่อไปหลังได้"ทีวี เทเลคอม"เข้ามาต่อยอดธุรกิจด้าน 3G ขณะที่รายได้รวมปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 25% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิสูงขึ้น

นายจำรัส สว่างสมุทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น(IRCP)เปิดเผยว่า เหตุผลหลักที่บริษัทเข้าซื้อกิจการ บริษัท ทีวี.เทเลคอม จำกัด(TVT) เนื่องจาก TVT เป็นผู้พัฒนาระบบบิลลิ่ง 3G ซึ่งอนาคตมีแนวโน้มเติบโตสูง จากระบบ 3G ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จาก TVT ในปลายปีนี้ หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติในเดือน เม.ย.53

"TVT เป็นบริษัทที่มีผลงานการพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องกับ 3G ระบบบิลลิ่ง ซึ่งดูว่าในอนาคต พอ 3G เข้ามาก็จะมีการปรับเปลี่ยนระบบบิลลิ่ง และ application ระบบโทรศัพท์ด้วย ซึ่งดูแล้วน่าจะรวม synergy กับเราได้"นายจำรัส กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

หลังจากซื้อธุรกิจเข้ามาแล้ว บริษัทก็จะพิจารณาแนวทางการพัฒนาบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จากที่ TVT มีประสบการณ์การปรับปรุงชุมสายระบบ 3G ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ IRCP แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทก็ยังมีความสนใจเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ ที่จะเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจของบริษัทได้ โดยขณะนี้กำลังมองหากันอยู่ หลังจากที่บริษัทเข้ามารุกในธุรกิจโทรคมนาคมเต็มตัวแล้ว

"อะไรที่คิดว่าต่อยอดธุรกิจได้ คิดว่าเป็นเป้าหมายที่เราจะทำต่อไป เพราะเรารุกเข้าตลาดโทรคมนาคมเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เราเริ่มเชิงรุก เราได้หาบริษัทผู้เชี่ยวชาญ มาต่อยอดธุรกิจ ไม่ต้องเสียเวลามาพัฒนาเอง "นายจำรัส กล่าว

*รายได้รวมโต 25% กำไรสูงขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IRCP คาดว่า รายได้รวมในปี 53 จะเติบโต 25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 627 ล้านบาท และจะมีกำไรสุทธิมากกว่าปีก่อนที่มี 16.12 ล้านบาท จากงานที่บริษัทประมูลงานด้านระบบโทรคมนาคม ของ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม การสื่อสารทหารบก และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

"เราให้ความสำคัญกับธุรกิจโทรคมนาคมมากกว่า เพราะเห็นตลาดเติบโต ซึ่งความต้องการในประเทศยังมีค่อนข้างสูง...เราเห็นแนวทางที่ค่อนข้างชัด จึงได้รีบปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจ"นายจำรัส กล่าว

รายได้จากโทรคมนาคมจะเห็นเติบโตชัดเจนในปีนี้และมีสัดส่วนมากขึ้นด้วย ซึ่งธุรกิจโทรคมนาคมดีกว่าธุรกิจด้านไอที เพราะธุรกิจไอทีมีคู่แข่งมากแต่ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นตลาดที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงมีคู่แข่งน้อย และให้มาร์จิ้นสูงกว่า

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการวางชุมสายและวางระบบที่เกี่ยวข้องกับ 3G และ ระบบ New Generation Network ซึ่งเป็นระบบชุมสายสมัยใหม่นั้น ในอนาคตที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์(Operator)จะมุ่งพัฒนาโครงข่ายให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยจากเดิมที่จะพัฒนาโครงข่ายเพื่อรองรับด้านเสียง(Voice) แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นข้อมูล(DATA) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนชุมสายใหม่ที่เป็น New Generation Network ซึ่งอนาคต Operator จะต้องทยอยเปลี่ยน และยิ่งการออกใบอนุญาต 3G จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ที่ผ่านมาในปี 50-51 บริษัทประสบผลขาดทุน 20.06 ล้านบาท และ 83.34 ล้านบาทตามลำดับ และในไตรมาส 1-2 ของปี 52 ยังขาดทุนต่อเนื่อง อีก 21.41 ล้านบาท จนกระทั่งได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจหันมาเน้นด้านโทรคมนาคมจึงเริ่มกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 3/52


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ