BMCL เผย Q1/53 ทำได้ตามเป้า รายรับดีกว่าคาด-รายจ่ายลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 1, 2010 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) กล่าวว่า ผลงานไตรมาส 1/53 ทำได้ตามเป้าหมาย
ทั้งในด้านรายรับและการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยในแง่ของรายรับปรับตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากมีผู้ใช้บริการมากขึ้นและให้บริการถี่ขึ้น เป็นผลจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามีมากขึ้น โดยเฉพาะย่านรัชดาภิเษก ซึ่งค่าเฉลี่ย 1 สถานีทั่วไปจะมีคอนโดมิเนียมอยู่ใกล้เคียงราว 7-8 แห่ง

นอกจากนั้น ทางบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่อาคารจามจุรีสแควร์ในช่วงปลายปีก่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน ทำให้การเติบโตของรายได้ค่อนข้างยั่งยืนขึ้น ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเราไม่ได้กระทบทางลบโดยส่วนใหญ่เป็นผลดีเพราะประชาชนไม่อยากเอารถออกมาจากบ้านก็หันมาใช้รถไฟฟ้าแทน

ปัจจุบัน ช่วงวันธรรมดา วันจันทร์-ศุกร์ มีผู้ใช้บริการประมาณ 2.1 แสนคน/วัน สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.9-2.0 แสนคน/วัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ โดยวันเสาร์มีจำนวนผู้โดยสาร 1.5 แสนคน/วัน และวันอาทิตย์ 1.1 แสนคน/วัน ทำให้ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารในช่วงไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 2 แสนคน/วัน จากค่าเฉลี่ยปี 52 อยู่ที่ 1.9 แสนคน/วัน

ขณะที่ค่าใช้จ่ายคงดีกว่าคาดการณ์เล็กน้อย จากการที่ประหยัดพลังงาน ไฟฟ้า และ แสงสว่าง ทำให้ต้นทุนโดยรวมต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก ซึ่งไม่รวมต้นทุนทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 53 ไว้ที่ 10% แม้ว่าจะมีการปรับลดราคาค่าโดยสารลงเฉลี่ย 1 บาท แต่จะมีการตัดส่วนลดพิเศษออกทั้งหมด ซึ่งก็จะทำให้ค่าโดยสารเฉลี่ยในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 24 บาท/เที่ยว จากปี 52 อยู่ในระดับกว่า 23 บาท/เที่ยว

"ยังคงเป้าหมายเดิมการเติบโตของรายได้ 10% ยังไม่ปรับ"นายสมบัติ กล่าว

บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี(EBITDA)เป็นบวกในปีนี้ จากปี 52 ที่ติดลบ 180 ล้านบาท แต่คงจะไม่สูงถึงระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีผลขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนถึง 1.33 พันล้านบาท

นายสมบัติ กล่าวว่า บริษัทคาดหวังว่าชนะประมูลเข้าเป็นผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเส้นทางบางใหญ่-บางซื่อ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบยกระดับ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ที่ทางการจะเปิดประมูลภายในปีนี้ ซึงบริษัทคาดว่าจะเริ่มมีกำไรหลังจากมีส่วนต่อขยายเริ่มเดินรถแล้วอีก 3 ปีหรือประมาณปี 56-57 เพราะจะมีผู้โดยสารเข้ามาในระบบมากขึ้น

"ปีนี้ EBITDA จะเป็นบวก ขาดทุนลดลงกว่าเดิม เพราะรายรับมากว่าเดิม 10% และจะมีการประมูลเกิดขึ้นในแง่ของส่วนต่อขยายที่เราคาดว่าจะได้"นายสมบัติ กล่าว

สำหรับขาดทุนสะสมที่มีอยู่นั้น บริษัทก็มีแผนดำเนินการไว้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย

"ตอนนี้มีแผนหลักคิดไว้แล้ว แต่ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่จำเป็น ถ้าจะคิดก็คือต้องคิดไปพร้อมกับที่เรามีส่วนต่อขยาย หรือกำลังสร้างส่วนต่อขยาย ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นปี 54 ปีนี้เราจะเข้าไปประมูล ซึ่งก็มีโอกาสที่จะได้"นายสมบัติ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ