นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 1 เม.ย.53 มีมติเห็นชอบในหลักการให้นิติบุคคลไทยและต่างประเทศสามารถออกและเสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ (FX bond) ในประเทศไทยให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไปได้ จากปัจจุบันที่อนุญาตให้เฉพาะนิติบุคคลต่างประเทศเสนอขายต่อธนาคารพาณิชย์เท่านั้น
การผ่อนคลายดังกล่าวเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้แก่ผู้ลงทุนไทยสามารถลงทุนใน FX bond ในประเทศได้ นอกเหนือจากการนำเงินออกไปลงทุนในตราสารดังกล่าวในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนไทยมีโอกาสเรียนรู้และคุ้นเคยกับตราสารที่หลากหลายขึ้น โดยที่ความเสี่ยงจากการลงทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นตราสารต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ผู้ลงทุนไทยลงทุนภายใต้วงเงินที่จัดสรรอยู่แล้ว
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์สามารถเข้ามามีบทบาทในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายตราสารและเป็นผู้ค้าตราสาร หากมีการซื้อขายในตลาดรองในประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์และศักยภาพในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับสถาบันการเงินต่างประเทศ อีกทั้งหลายประเทศในเอเชีย เช่น มาเลเซีย อินเดีย ฮ่องกง ได้เปิดให้เสนอขาย FX bond ในประเทศของตนแล้ว
สำหรับนิติบุคคลผู้ออกและเสนอขาย FX bond จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอขายในแนวทางเดียวกับหลักเกณฑ์การเสนอขายตราสารหนี้ในปัจจุบัน กล่าวคือหลักเกณฑ์จะเข้มงวดสำหรับการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และหลักเกณฑ์ผ่อนปรนสำหรับการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน โดยผู้ออกและเสนอขายตราสารดังกล่าวจะต้องเปิดเผยข้อมูลปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ข้อจำกัดของการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายจะอยู่ภายใต้วงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ