นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยอมรับว่าการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมเพื่อประชาธิปไตย(นปช.) โดยการปิดแยกราชประสงค์นั้นกระทบต่อรายได้ในช่วงไตรมาส 2/53 แน่นอน แต่ยังไม่ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 2 ปกติเป็นช่วงปิดแทอมจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก โดยเฉพาะส่วน TK Park และโรงเรียนกวดวิชา รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวค่อนข้างมากในช่วงนี้ด้วย
บริษัทยังไม่มีการทบทวนเป้าหมายรายได้ทั้งปี 53 ในขณะนี้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 25% เท่ากับปีก่อน บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินเป้าหมายการเติบโตของรายได้และทิศทางการเติบโต โดยจะแถลงข่าวในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์นี้
นายนริศ กล่าวว่า บริษัทยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเปิดศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้เมื่อไร เนื่องจากขณะนี้ผู้ชุมนุมยังมีจำนวนมาก และหากเปิดให้บริการก็คาดว่าลูกค้าคงจะยังไม่กล้าเดินทางมาใช้บริการที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยปัจุบันสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งมีผู้มาใช้บริการประมาณ 1 แสนรายต่อวัน
"ในแง่บริษัทย่อมได้รับผลกระทบ รายได้ไตรมาส 2 คงกระทบบ้างแต่ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขว่าเท่าไร เพราะเพราะเรายังไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ เพราะถ้าเปิดตอนนนี้ลูกค้าก็คงไม่กล้ามาใช้บริการ ผมประมาณความเสียหายไม่ถูก ณ ตอนนี้"นายนริศ กล่าว
สำหรับบริษัทนั้นมองว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้เช่าพื้นที่ในบริเวณเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากมีรายได้เป็นรายวัน บวกกับลูกจ้างรายวันนั้นจะขาดรายได้ ซึ่งน่าเห็นใจมากกว่า ส่วนการแก้ไขสถานการณ์ยังต้องรอดูท่าทีทุกฝ่ายก่อน