นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธนาคารเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) ระบุว่าไตรมาส 1/53 ค่าการกลั่นรวม(GIM)ไม่รวมสต็อกอยู่ที่กว่า 5 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มตลาดที่ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งปิดตัวและปิดซ่อมบำรุง ทำให้อัตรากำไรสูงขึ้น
ประกอบกับ ผลผลิตจากโรงกลั่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบอะโรเมติกส์มีน้อยลง ทำให้ได้ราคาดีและขายปิโตรเคมีได้สูงขึ้น โดยสิ้นเดือนมี.ค.ราคาพาราไซลีน อยู่ที่ 1,020 เหรียญ/ตัน ส่วนต่างราคา(สเปรด)อยู่ที่ 355 เหรียญ/ตัน ส่วนราคาเบนซีน ปรับขึ้นมาที่ 989 เหรียญ/ตัน สเปรดปรับขึ้นมาที่ 324 เหรียญ/ตัน สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 164 เหรียญ/ตัน
"ไตรมาส 1 ภาวะตลาดโดยรวมดีขึ้นกว่าไตรมาส 4 ที่ผ่านมาที่มีมาร์จิ้นโรงกลั่นน้อยมาก แต่มาไตรมาส 1 โรงกลั่นมีการ shut down เยอะ ทำให้มาร์จิ้นโรงกลั่นดีขึ้น และวัตถุดิบก็หายไปทำให้ซัพพลายน้อยลง หวังว่ามาร์จิ้นโดยรวมยังดีอยู่ 2-3 เดือนที่ผ่านมาดี ครึ่งปีหลังก็น่าจะดีส่งผลให้ทั้งปีดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว "นายชายน้อย กล่าว
ปัจจุบัน PTTAR ใช้กำลังการกลั่นเกือบเต็มกำลังที่ 2.8 แสนบาร์เรล/วัน
นายชายน้อย กล่าวว่า ในช่วงปี 53-57 บริษัทมีภาระชำระหนี้เงินกู้และไถ่ถอนหุ้นกู้ส่วนใหญ่ รวมประมาณ 4.38 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้ครบกำหนดชำระ 2.3 พันล้านบาท และปี 54 ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 9.5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนการออกหุ้นกู้ที่ชัดเจน แต่จะเตรียมหาวงเงินมารีไฟแนนซ์หนี้ในปีหน้าด้วยการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินทั้งในรูปเงินสกุลเงินบาทและเหรียญสหรัฐ แต่หากปีนี้ภาวะตลาดเงินเอื้ออำนวยอาจเป็นไปได้ที่จะออกหุ้นกู้ ซึ่งน่าจะออกได้ทั้งสกุลเงินบาทและเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าจะออกหุ้นกู้อายุ 10 ปี
ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้มีมติอนุมัติกำหนดวงเงินการออกหุ้นกู้ไม่เกิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ อายุไม่เกิน 15 ปี เป็นสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินอื่นภายในปี 53-57 เพื่อทดแทนเงินกู้เดิมที่จะครบกำหนด และใช้รองรับการขยายงานในอนาคต รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายชายน้อย กล่าวในที่สุดว่า การควบรวม 4 บริษัท ของบริษัทลูกปตท. ทั้ง IRPC PTTAR PTTCH และTOP ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปผลคาดว่าประมาณ พ.ค.-มิ.ย.53 หรือสรุปได้ภายในไตรมาส 2/53