นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวภายหลังการประชุมประจำไตรมาสร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนว่า ตามแผนปฏิบัติการเพื่อเชื่อมโยงตลาดทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน และแผนความร่วมมือระดับทวิภาคี ได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้มีการเปิดให้เสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันได้ภายใน ปี 2555 และเปิดให้เสนอขายแก่ผู้ลงทุนรายย่อยเป็นลำดับถัดมา
ดังนั้น สมาคมบริษัทจัดการจะต้องเร่งให้สมาชิกเตรียมตัวพร้อมรับการแข่งขันข้ามชาติตั้งแต่ตอนนี้แผนการเชื่อมโยงตลาดทุน ซึ่งเป็นความร่วมมือในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ลงทุนไทยมีทางเลือกในการลงทุนมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและบทบาทของตลาดทุนไทยในตลาดโลก โดยในขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับการขายหน่วยลงทุนข้ามชาติดังกล่าว ทั้งเชิงรับและเชิงรุก
สำหรับเชิงรับนั้น ก.ล.ต. ได้มอบหมายให้สมาคมไปศึกษาหลักเกณฑ์ของไทยว่า มีเรื่องใดบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสมควรได้รับการแก้ไข เพื่อที่ บลจ. จะสามารถออกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจได้เทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ที่ออกโดย บลจ. ต่างประเทศ
ส่วนในเชิงรุก สมาคมควรศึกษาหลักเกณฑ์การกำกับดูแลของต่างประเทศควบคู่ไปด้วย เพื่อเตรียมพร้อมในการออกผลิตภัณฑ์ขายในต่างประเทศ
ทั้งนี้ เร็วๆ นี้ ก.ล.ต. จะอนุญาตให้กองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยตรง จากที่ได้อนุญาตให้เสนอขายโดยผ่านกองทุนรวมอีทีเอฟที่จัดตั้งในไทยไปแล้ว
"การเปิดให้ซื้อขายหน่วยลงทุนข้ามประเทศได้นั้น ก.ล.ต. จะต้องพิจารณาถึงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลของประเทศผู้เสนอขาย ซึ่งต้องให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างน้อยเทียบเท่ากับหลักเกณฑ์ของไทย รวมทั้งต้องเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุนอย่างเพียงพอด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยได้รับความคุ้มครองในระดับที่เหมาะสม"นายธีระชัย กล่าว