นายวิชา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR)ระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์ส่งผลกระทบต่อรายได้ของสาขาโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าวบ้างแต่ไม่มากนัก โดยในช่วง 4 วันที่ผ่านมารายได้ลดลงไปประมาณ 2 ล้านบาท เนื่องจากผู้ชมภาพยนตร์มักจะเปลี่ยนไปใช้บริการในสาขาอื่นแทน ทำให้บริษัทยังคงเป้าหมายปี 53 รายได้เติบโตได้ 10%
ส่วนการถือหุ้นในบมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) นั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนขายหุ้นออกไปอีก หลังจากที่ล่าสุดได้ขายไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.53 ราว 0.7% เหลือถือหุ้นอยู่ 19.9%
"การเมืองตรงราชประสงค์ เชื่อว่าท้ายที่สุดน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหนก็ตาม ปัญหาตรงนี้ส่งผลกระทบต่อภาพ MAJRO ไม่ดีต่อบ้านเมือง แต่ในแง่ของลูกค้ามีการปรับตัวได้ค่อนข้างดี" นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวว่า ไตรมาสที่เหลืออยู่ของปีนี้ บริษัทยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เตรียมเข้าฉายอีกหลายเรื่อง อาทิ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค 3-4, แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ภาคต่อ และยังมีภาพยนตร์ใหม่อีกด้วย ในสัปดาห์นี้ก็จะมีภาพยนตร์ใหม่เข้าฉายอีก 3 เรื่อง คนไทยทั้งแผ่นดิน, The Princess and the Frog, Date Night
ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/53 เชื่อว่าจะยังคงเป็นช่วงไฮซีซั่นเช่นปกติ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณผู้ชมภาพยนตร์เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น
นายวิชา ยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายสาขาเพิ่มอีก 30-50 แห่ง ซึ่งทยอยเปิดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้เปิดสาขาที่มหาชัย และ จ.สระบุรี
"เห็นสัญญาณเอเยนซี่กลับมามากขึ้น เป็นสัญญาณบวกต่อธุรกิจ และการเติบโตของบริษัท...ยังคงเป้ารายได้ปี 53 โต 10%" นายวิชา กล่าว
ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ยังเติบโตได้ และในส่วนของบมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) ที่ได้มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นไปก่อนหน้านี้ นายวิชา กล่าวว่า คงจะไม่เห็นการขายออกมาแล้ว คงสัดส่วนถืออยู่ 19% เพราะว่าหลังปรับเปลี่ยนรูปแบบในการบริหารก็มีทิศทางที่ดีขึ้น และยังมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง