นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม(THCOM) คาดผลดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน และคาดว่าจะพลิกมีกำไรสุทธิ หลังจากปีก่อนมีผลขาดทุนกว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากภายในปีนี้จะรับรู้รายได้จากบริการไอพีสตาร์ในประเทศจีนอย่างจริงจัง และจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริการในอินเดียตั้งแต่เม.ย.นี้
"ตอนนี้สัญญากับอินเดียเสร็จสิ้นแล้ว จะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนเม.ย. ส่วนจีนที่ล่าช้ามา 2-3 ปีก็คาดว่าจะสรุปได้หลังอินเดียไม่นานนัก เพราะการเจรจาครั้งล่าสุดรัฐบาลจีนมีการขอโทษและบอกว่าจะเร่งให้เสร็จโดยเร็ว"นายอารักษ์ กล่าว
บริษัทตั้งเป้าหมายว่าหากมีกำไรจากการดำเนินงานก็จะพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดยจะเริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ในการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล แม้ว่าบริษัทจะมีกำไรสะสมถึง 3.4 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 52 แต่ไม่ต้องการนำเงินส่วนนี้มาจ่ายปันผล เนื่องจากต้องการสำรองไว้สำหรับการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะดาวเทียมไทยคม 6
สำหรับดาวเทียมไทยคม 6 ที่จะมาทดแทนไทยคม 2 ที่จะหมดอายุภายในปีนี้ ขณะนี้ยังคงรอคำตอบจากทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ว่าจะให้สร้างดาวเทียมดวงใหม่ หรือสามารถเช่าใช้ดาวเทียมดวงอื่นมาทดแทน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้คำตอบโดยเร็ว เพราะดาวเทียมไทยคม 5 ที่รองรับลูกค้าจากไทยคม 1-2 น่าจะเต็ม capacity ภายในอีก 1 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนดาวเทียมไทยคม 6 ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบใด
ส่วนปัญหาสัญญาสัมปทานที่อาจได้รับผลกระทบจากผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น บริษัทมั่นใจว่าไม่ได้มีการทำผิดกฎหมายหรือผิดสัญญาสัมปทาน หากมีปัญหาในอนาคตก็จะต้องเข้าสู่ชั้นอนุญาโตตุลาการ และหากจะเพิกถอนสัญญาสัมปทาน บริษัทก็จะต่อสู้ตามกระบวนกการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาหลายปี
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทไม่มีอำนาจในการระงับการส่งสัญญาณสถานีโทรทัศน์ PTV เพราะเป็นการอัพลิงค์มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งเป็นไปได้ยากที่จะปิดช่องสัญญาณแพร่ภาพ เพราะจะมีผลกระทบตอ่ลูกค้าที่ใช้ช่องสัญญาณเดียวกันกว่า 10 ราย โดยได้ให้คำชี้แจงกับทางกระทรวงไอซีทีที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เข้ามาประสานงานไปแล้ว
ขณะนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงได้ไปรวมตัวกันราว 300-400 คนที่สถานีดาวเทียมไทยคมที่แยกแครายเพื่อป้องกันไม่ให้ภาครัฐเข้ามาปิด ซึ่งบริษัทได้สั่งให้พนักงานและเจ้าหน้าที่กลับบ้านไปตั้งแต่เที่ยงวันนี้แล้ว