นายแอริค มาร์ค เลอวีน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) เปิดเผยว่า ในปี 53 ได้ตั้งเป้าที่จะมีผลประกอบการขาดทุนไม่ถึง 100 ล้านบาทจากปี 52 ที่มีผลขาดทุน 274 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับ business model มาเน้นการเก็บค่าสมาชิกแบบรายเดือน นอกจากนี้บริษัทมีแผนการลดค่าใช้จ่ายลงหลังการปรับเปลี่ยนการเก็บค่าสมาชิก
สิ้นปี 53 คาดว่าสัดส่วนรายได้จากค่าสมาชิกรายเดือนจากปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 50% ส่วนเหลือเป็น Term Membership จากปี 52 มีรายได้ค่าสมาชิกแบบรายเดือนอยู่ที่ 7% และ Term Membership 93% และในปี 54 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้สมาชิกรายเดือน เป็น 70% และที่เหลือเป็น Term Membership ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวน 159,000 ราย มีการใช้บริการทุกวันประมาณ 20,000 คน/วัน
หลังจากบริษัทได้เริ่มปรับเปลี่ยนการเก็บค่าสมาชิกใหม่ ทำให้สัดส่วนค่าสมาชิกรายเดือนเพิ่มเป็น 20% แล้ว และเดือน ก.ค.จะมีการแปลงสมาชิกรายปีมาเป็นรายเดือนทั้งหมด ซึ่งลูกค้ายอมรับได้ โดยค่าสมาชิกรายเดือนปัจจุบันอยู่ที่ 1,300 บาท/เดือน และหลังสงกรานต์ ปรับเพิ่มเป็น 1,350 บาท/เดือน และจะปรับขึ้นอีก 50 บาททุกเดือน จนมีค่าสมาชิกอยู่ที่ 2,000 บาท/เดือนภายในปีนี้ เท่ากับสมาชิกฟิตเนส เฟริสท์
นายแอริค กล่าวว่า มั่นใจว่าบริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจได้ต่อไป ซึ่งผู้ถือหุ้นของกลุ่มของตนเองได้ใส่เงินเพิ่มทุนอีก 80 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทาง บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR)ได้ใส่เงินเพิ่มทุนเช่นกัน รวมเป็นเงินเพิ่มทุนทั้งหมด 112 ล้านบาท ซึ่งจะนำเงินได้จากการเพิ่มทุนนำมาใช้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ
สำหรับการชุมนุมทางการเมือง ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเดือน เม.ย.นี้ โดยพบว่าสาขาที่พารากอนที่ปิดทำการ 1 สัปดาห์ กระทบธุรกิจชัดเจน และสาขาสีลม ปิดทำการ 2-3 ครั้ง และหลายสาขาที่อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
ด้านนายวิชา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ MAJOR ระบุ ปัจจุบัน MAJOR ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน CAWOW เหลือ 19% แต่หากธุรกิจสามารถ Turn Around ได้ บริษัทพร้อมที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น และปัจจุบันบริษัทไม่มีนโยบายลดสัดส่วนถือหุ้น CAWOW ลงอีก
ทั้งนี้ บริษัทจะรอดูผลประกอบการของ CAWOW ในไตรมาส 2-3/53 ซึ่งปีนี้ยอมรับว่าเป็นปีสำคัญของ CAWOW หลังการปรับเปลี่ยน business model และพบว่าหลังที่ CAWOW ได้ปรับเปลี่ยนการเก็บค่าสมาชิกเป็นรายเดือน ทำให้มีสัดส่วนรายได้ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 20% และอีก 6 เดือนน่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 40-50% ได้
ราคาค่าสมาชิกรายเดือนปัจจุบัน 1,300 บาท/เดือน ยังมีช่องที่จะปรับขึ้นไปถึง 1,800-2,000 บาท/เดือน และน่าจะทำให้ธุรกิจฟื้นตัวได้ แต่ต้องมีการบริหารจัดการต้นทุน และใช้งบทำการตลาดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 1/53 เพื่อให้แบรนด์ยังติดตลาด
"เรายังเชื่อว่าการเก็บเงินค่าสมาชิกแบบรายเดือน น่าจะทำให้ธุรกิจ turn around เหมือนฟิตเนสเฟิร์สที่เก็บสมาชิกเป็นรายเดือน เชื่อว่าตอนนี้ CAWOW เดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่เดือนนี้อาจเจอปัญหาการชุมนุมบ้าง การเก็บเงินรายเดือนอาจช็อตบ้าง แต่ 5-6 เดือนผ่านไปคงไม่ช็อตเงินแล้ว คงเก็บเงินได้ตามปกติ และเมื่อมีเงินเข้ามาสม่ำเสมอ ก็อาจมีการตั้งราคาสมาชิกใหม่ได้" นายวิชา กล่าว
นายวิชา มองว่าในปีนี้ CAWOW คงไม่ประสบผลขาดทุนเป็น 100 ล้านบาท หลังมีการปรับ business model และภาพลักษณ์คงดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีความได้เปรียบเลือกสถานที่ตั้งสาขาต่างๆ ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก