ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กยอดขายบริษัทค้าปลีกสดใส หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 29.55 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 9, 2010 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐหลายแห่งเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถบดบังกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซและจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 29.55 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 10,927.07 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 1,186.44 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 5.65 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 2,436.81 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.48 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 7

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซทั้งจากกลุ่มประเทศยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ กรีซยังเผชิญกับต้นทุนการกู้ยืมในตลาดการเงินภายในประเทศที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ด้วย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 18,000 คน แระที่ระดับ 460,000 คนในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดกว่าจะอยู่ที่ระดับ 435,000 คน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานของสหรัฐมีมากขึ้นเมื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมที่เมืองดัลลัสเมื่อวันพุธว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น สหรัฐยังเผชิญกับปัญหาท้าทายอีกมาก รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง

"แม้ตัวเลขการเลย์ออฟพนักงานในภาคเอกชนลดน้อยลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ตัวเลขการจ้างงานยังอ่อนแอมาก เพราะมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า กว่า 40% ของผู้ที่ถูกเลย์ออฟยังคงหางานทำไม่ได้เป็นเวลา 6 เดือนหรืออาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้น สถิติดังกล่าวสูงกว่าในปีที่แล้วเกือบสองเท่า ซึ่งผมกังวลเรื่องตลาดแรงงานมาก เพราะหากอัตราว่างงานยืนอยู่ในระดับสูงนานเกินไป ก็จะส่งผลบั่นทอนทักษะการทำงานของพนักงานและจะยิ่งทำให้รายได้ระยะยาวปรับตัวลดลงด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายและสามารถไต่ขึ้นไปปิดในแดนบวกได้สำเร็จ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลของสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ICSC) ที่ระบุว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% ในเดือนมี.ค.เนื่องจากสภาพอากาศที่สดใสและการจับจ่ายใช้สอยที่คึกคักในเทศกาลอีสเตอร์

ทั้งนี้ หุ้นบริษัทค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ปิดบวก 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเดือนมี.ค.ที่สูงเกินคาด ขณะที่หุ้นเมซี อิง ปิดพุ่ง 19 เซนต์ แตะที่ 22.65 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ