นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB)กล่าวว่า ในไตรมาส 1/53 ธนาคารปล่อยสินเชื่อสุทธิได้จำนวน 7 หมื่นล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน ซึ่งเท่ากับเป้าหมายทั้งปีของธนาคาร ดังนั้น ธนาคารจึงเตรียมการปรับเป้าหมายสินเชื่อช่วงกลางปี คาดว่าเพิ่มเป็นตัวเลขสองหลัก หรือมากกว่า 10%
สำหรับสินเชื่อที่ปล่อยไปในช่วงต้นปีนี้เป็นโครงการภายใต้งบไทยเข้มแข็ง สินเชื่อภาครัฐ และ สินเชื่อธุรกิจเอกชนที่ดำเนินธุรกิจได้ดีต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยอมรับว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของปัญหาการเมืองที่จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และการขยายตัวเศรษฐกิจได้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปมาก
"การปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 1/53 ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง และยังไม่ได้รับผลกระทบทางการเมือง แต่ไตรมาส 2/53 ยังต้องรอดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร"กรรมการผู้จัดการ KTB กล่าว
นายอภิศักดิ์ ประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในระยะสั้นยังไม่กระทบการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และยังไม่พบว่าลูกค้าชะลอการขอสินเชื่อ แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อเกิน 3 เดือนจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารแน่นอน เพราะจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าน่าจะมีการปรับช่วงกลางปีนี้ แต่คงเป็นการทยอยปรับขึ้นคราวละไม่มาก และมองว่าดอกเบี้ยนโยบายจะยังอยู่ในระดับต่ำในปีนี้ แต่ทั้งนี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ยังมีปัจจัยของความไม่แน่นอนที่จะกระทบเศรษฐกิจ
กรรมการผู้จัดการ KTB กล่าวถึงการปล่อยสินเชื่อให้ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งเคยเป็นบริษัทลูกของบริษัท เพรสซิเด้นท์ อะกริ ว่า การที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้บริษัทดังกล่าว เนื่องจากมีการยื่นขอสินเชื่อ โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันคุ้มมูลหนี้ และปัจจุบันยังมีการชำระคืนหนี้ตามปกติ และไม่ได้ส่งผลเสียหายต่อธนาคาร
"ที่เรายอมปล่อยกู้ให้อินดิก้า เพราะมีหลักทรัพย์ค้ำประกันมากกว่ามูลหนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งมีทั้งโรงงาน ทรัพย์สินที่ดินต่างๆ และการปล่อยกู้เราก็มีเงื่อนไข ตอนนี้บริษัทก็ยังชำระหนี้ได้ตามปกติ แบงก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย" นายอภิศักดิ์ กล่าว