นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทจะออกหุ้นกู้สกุลเงินบาท วงเงิน 2 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ และปีหน้าอาจจะออกอีก 4-5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการรีไฟแนนซ์และใช้เป็นเงินลงทุน
ขณะที่รายได้ในไตรมาส 1/53 คาดว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ ดีกว่าไตรมาส 4/52 พร้อมทั้ง คาดว่าทั้งปี 53 รายได้จะสูงกว่าปีที่ก่อน ซึ่งบริษัทประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะ 90 เหรียญ/บาร์เรล แต่อาจจะไปได้ไม่ไกลกว่านั้น
"บริษัทยังคงเป้าหมายราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้ที่ระดับ 80 เหรียญ แต่ไม่น่าจะถึง 90 เหรียญ แม้ว่าบางช่วงราคาน้ำมันตลาดโลกจะขึ้นไปถึงระดับ 90 เหรียญ หรือมีโอกาสได้เห็น 100 เหรียญ แต่เชื่อว่าเป็นการปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น ไม่สามารถทรงตัวในระดับ 90-100 เหรียญได้ บริษัทยังไม่ปรับประมาณการรายได้ปี 53 ที่คิดว่าดีกว่าปีก่อน"นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า เหตุผลที่บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงิบบาทขายในประเทศ เนื่องจากช่วงต้นปีบริษัทมีการระดมทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ประกอบกับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยของปตท. และประชาชนทั่วไปต้องการลงทุนในหุ้นกู้ของ ปตท.ซึ่งจะเห็นได้จากที่ผ่านมาการออกสนอขายหุ้นกู้ในประเทศมีความต้องการค่อนข้างมาก
ในวันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ จำนวน 8 หมื่นล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี (ปี 53-57) ซึ่งเป็นการบริหารการเงินของบริษัท และรองรับแผนการลงทุน 5 ปีที่ตั้งงบลงทุน 2.44 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ งบลงทุนส่วนหนึ่ง ประมาณ 8 หมื่นล้านบาทบริษัทจะใช้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนที่สนใจเพิ่มเติม อาทิ ถ่านหิน โรงไฟฟ้า น้ำมันปาล์ม รวมถึง โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานลม และ พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมองว่าในอนาคตจะมีอัตราการเติบโตสูง และได้รับการตอบรับจากภาคประชาชน
นายประสริฐ กล่าวถึงโครงการโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 และท่อก๊าซส่วนต่อขยายในพื้นที่มาบตาพุด ที่มีมูลค่าลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เร็วๆ นี้ หลังจากที่คณะกรรมการ 4 ฝ่ายได้รับฟังความเห็นกับประชาชนแล้ว เชื่อว่าโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ไม่เข้าข่ายโครงการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม