นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้จัดการ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า กองทุนฟื้นฟูฯ ได้รับโอนเงินที่ทางธนาคารธนชาต(TBANK)ชำระค่าหุ้นธนาคารนครหลวงไทย(SCIB)มาแล้วในช่วงเช้าวันนี้
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารได้ชำระเงินค่าหุ้นธนาคารนครหลวงไทยจำนวน 1,005,330,950 หุ้น หรือร้อยละ 47.58 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 32.50 บาท เป็นเงิน 32,673,255,875 บาทให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
หลังจากนี้ ในระหว่างวันที่ 29 เมษายน-7 มิถุนายน 2553 ธนาคารจะทำคำเสนอซื้อ (Tender Offer) หุ้น SCIB จากผู้ถือหุ้นรายอื่นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 32.50 บาท
และผลจากการทำธุรกรรมชำระเงินในครั้งนี้ทำให้ธนาคารธนชาตและกลุ่มธนชาต ถือหุ้น SCIB รวมกันทั้งหมดร้อยละ 66.89 และสามารถส่งตัวแทนเข้าร่วมในกรรมการธนาคารนครหลวงไทยได้ตามสัดส่วน เพื่อร่วมในการบริหารจัดการธนาคารนครหลวงไทยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันก่อนการควบรวมกิจการ
จากนี้ไปธนาคารธนชาตจะกลายเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของสถาบันการเงินในประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมกว่า 8 แสนล้านบาท สามารถยกระดับศักยภาพในการแข่งขันกับทั้งสถาบันการเงินไทย และสถาบันการเงินต่างประเทศ ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครบวงจร สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึงด้วยความใส่ใจและรอบรู้ของพนักงาน 2 ธนาคารในมาตรฐานที่ดีในระดับเดียวกัน ผ่านช่องทางสาขาที่มีเกือบ 700 สาขาทั่วประเทศ และตู้เอทีเอ็มกว่า 2,000 ตู้ นำจุดแข็งของทั้งสองสถาบันมาผสานเพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจและบริการเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร จำนวนกว่า 4 ล้านราย
ส่วนนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCIB กล่าวว่า จากศักยภาพ ความมั่นคงแข็งแกร่ง รวมถึงความเชี่ยวชาญจากทั้ง 2 ธนาคารที่จะนำมาผสมผสานกัน ทั้งจากธนาคารธนชาตที่มีความเชี่ยวชาญด้านลูกค้ารายย่อยโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และธนาคารนครหลวงไทยที่เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อ SME และสินเชื่อเคหะ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากบริการทางการเงินที่ครบถ้วนหลากหลายและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น