บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ (12-16 เม.ย. 2553) ดัชนีอาจแกว่งตัวในกรอบแคบท่ามกลางธุรกรรมที่เบาบาง โดยพัฒนาการทางการเมืองจะยังคงมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยในต่างประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามกระแสการคาดการณ์ค่าเงินหยวน ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจชั้นนำอื่นๆ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 769 และ 756 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 820 และ 834 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 789.66 จุด ขยับลดลง 1.43% จาก 801.15 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.50% จากสิ้นปี 2552 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 1.94% จาก 125,563.44 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 123,131.25 ล้านบาท แต่คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจาก 25,112.69 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 30,782.81 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 5,187.12 ล้านบาท และ 1,009.86 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 5,222.36 ล้านบาท และ 974.63 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 209.01 จุด ปรับตัวลดลง 2.14% จาก 213.59 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า และ 2.92% จากสิ้นปีก่อน
ดัชนี SET ร่วงลงหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 22 เดือนในวันพุธ ในวันจันทร์ ดัชนีหุ้นไทยปิดปรับตัวขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในวันอังคาร ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องในวันจักรี หลังจากเปิดทำการอีกครั้งในวันพุธ ดัชนีปิดบวกเล็กน้อย แม้จะมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่าย แต่ดัชนียังแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกได้ ก่อนจะปิดลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 800 จุดในวันถัดมา จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ และแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ่วงให้ดัชนีปรับตัวลงมากกว่าภูมิภาค และทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบกว่าสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธินับเป็นครั้งแรกในรอบ 31 วันทำการ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีลดช่วงติดลบลงในวันศุกร์ โดยมีแรงซื้อกลับในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน นำโดยหุ้นกลุ่มหลักที่ร่วงลงแรงในวันก่อนหน้า ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ