ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) ขานรับมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับรายได้ไตรมาสแรกของบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขรายได้ในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า หลังจากที่ตลาดเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ดี ช่วงขาขึ้นในตลาดถูกสกัดไว้หลังจากที่มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 13.45 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 11,019.42 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.81 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,197.29 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 8.12 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 2,465.99 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.17 พันล้านหุ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 7.4% มาอยู่ที่ 3.97 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. แม้ว่ายอดการนำเข้าน้ำมันจะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า ตัวเลขดังกล่าวส่งสัญญาณให้เห็นถึงการฟื้นตัวของดีมานด์ภายในประเทศ
บริษัท อัลโค ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ เปิดเผยภายหลังตลาดปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้นั้นออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ว่าตัวเลขรายได้ของอัลโคจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการในการลงทุนลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังขยายตัว กำไรของเอกชนก็กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน