ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 21.46 จุด รับผลประกอบการ UPS-ผลผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 16, 2010 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และบริษัท ยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มขนส่งดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 21.46 จุด หรือ 0.19% ปิดบวก 11,144.57 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.02 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 1,211.67 จุด และ ดัชนี Nasdaq บวก 10.83 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 2,515.69 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.016 หมื่นล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 8 ต่อ 7

นักวิเคราะห์จากฟอร์ทพิทท์ แคปิตอล กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเดือนมี.ค.ดีดตัวขึ้น 0.1% ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.6% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคสหรัฐมีการใช้จ่ายมากขึ้น

นักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนของสหรัฐจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง หลังจาก UPS เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 33% และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้น UPS ปิดพุ่ง 5.3% ขณะที่หุ้นบริษัทคู่แข่งอย่าง FedEx ปิดบวก 1.7% และยังช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งดีดตัวขึ้น 1.7%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2553 พุ่งขึ้น 57% สู่ระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 74 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 64 เซนต์ต่อหุ้น

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัท กูเกิล อิงค์ รายงานผลกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 37% โดยหุ้นกูเกิลปิดบวก 1.1%

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 24,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 484,000 คน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสองสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ