ศูนย์กสิกรไทย คาดปี 53 ตลาดบริการเสริมมือถือโตต่อเนื่อง โมบายเน็ตเด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 16, 2010 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลาดบริการเสริมในปี 2553 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 27,000-28,000 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 10.5-14.6 จากปีที่แล้วที่ขยายตัวร้อยละ 15.22 หรือมีมูลค่าตลาด 24,433.62 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จากบริการเสริมต่อรายได้ทั้งหมดของผู้ให้บริการน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 17-19 จากปี 2552 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 15.7

การขยายตัวดังกล่าวได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ราคาสมาร์ทโฟนที่ถูกลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็มักจะใช้กลยุทธ์เสนอขายตัวเครื่องโทรศัพท์ควบกับบริการเสริม เพื่อจูงใจผู้ใช้ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเองที่คุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารมากขึ้น

ประกอบกับผู้ให้บริการเองก็เร่งนำเสนอโปรโมชั่นสำหรับบริการเสริม เพื่อชดเชยรายได้จากบริการเสียงที่มีแนวโน้มลดลงจากการแข่งขันลดค่าโทรที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2553 จุดเด่นของตลาดบริการเสริมจะมุ่งเน้นไปที่บริการโมบายอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นบริการเสริมที่มีความหลากหลายในการใช้งาน เช่น การเช็คอีเมล์ การค้นหาและดาวน์โหลดข้อมูล การติดต่อสื่อสาร โดยคาดว่าปริมาณการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและการชุมนุมต่างๆเป็นที่จับตามอง และช่วงฟุตบอลโลกที่จะมีขึ้นในกลางปี รวมถึงกระแสสังคมออนไลน์ที่ยังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งผู้ให้บริการเองก็ได้นำเสนออุปกรณ์ เช่น แอร์การ์ด และซิมอินเทอร์เน็ต ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนของโมบายอินเทอร์เน็ตอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะเดียวกัน การดาวน์โหลดคอนเทนต์ และบริการเสริมสำหรับองค์กร ก็น่าจะมีทิศทางที่ดีเช่นกัน ส่วนบริการเสริมสำหรับองค์กร เช่น บริการระบบติดตาม (Tracking) ที่เหมาะกับธุรกิจขนส่ง บริการส่งข้อความสั้นเป็นกลุ่ม (Bulk SMS) และบริการเชื่อมโทรศัพท์ภายในสำนักงานกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ น่าจะเติบโตได้ตามการฟื้นตัวของการลงทุน

ส่วนบริการเอสเอ็มเอส ที่เคยได้รับความนิยมอันดับต้นๆ อาจมีบทบาทในการสร้างรายได้แก่ผู้ให้บริการลดลงจากปีที่ผ่านมา และรายได้จากบริการเสียงรอสาย (Calling Melody) อาจได้รับผลกระทบทั้งจากปริมาณการใช้และค่าบริการที่ลดลง

ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตลาดบริการเสริมที่ต้องจับตา ได้แก่ การเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ความถี่ 2.1 GHz จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บริการเสริม ซึ่งล่าสุดการตีความของกฤษฎีกาถึงอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ยังไม่ได้ให้ความชัดเจนว่า กทช. สามารถจัดสรรความถี่ได้หรือไม่ เพียงแต่ระบุว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกทช.เอง ซึ่งเบื้องต้นหลังจากคณะกรรมการของ กทช. มีองค์ประชุมครบ 7 คนแล้ว กทช. มีนโยบายเร่งรัดผลักดันการจัดสรรใบอนุญาต 3G ให้เกิดขึ้นภายในปีนี้

แต่หาก กทช.ไม่สามารถจัดสรรความถี่ได้ อาจต้องรอการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยเบื้องต้นวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างดังกล่าวประเมินว่า การจัดตั้งกสทช. น่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2554 หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนแม่บทอีก 3-6 เดือน และคาดว่าจะเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ได้ในต้นปี 2555

รวมทั้ง การเชื่อมโยงโครงข่ายบริการข้อมูล (Data Roaming) เนื่องจากการเปิดประมูล 3G ยังมีไม่กำหนดเวลาที่แน่นอน และบริการคงสิทธิเลขหมาย เป็นบริการที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลขหมาย ซึ่งหากผู้ให้บริการรายใดนำเสนอบริการที่จูงใจ ก็เป็นโอกาสดีที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งจุดเด่นด้านบริการเสริมสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างเครือข่ายได้ โดย กทช. ประเมินเบื้องต้นว่า บริการดังกล่าวน่าจะเปิดใช้ได้ประมาณเดือนสิงหาคม ซึ่งน่าจะทำให้การแข่งขันในตลาดบริการเสริมทวีความเข้มข้นขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ