ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทรุดหนักสุดในรอบเกือบสองเดือนเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้อง โกลด์แมน แซคส์ ข้อหาฉ้อโกงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินเชื่อซับไพรม์หนุนหลัง
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 81.05 จุด หรือ 1.39% แตะที่ 5,743.96 จุด ทำให้สัปดาห์นี้ ดัชนีลดลง 0.5% หยุดสถิติเดินหน้าหกสัปดาห์ซ้อน
SEC กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ หลอกลวงนักลงทุนด้วยการปิดบังผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อซับไพรม์หนุนหลังหรือค้ำประกัน โดย SEC ระบุในแถลงการณ์ว่า โกลด์แมน แซคส์ กล่าวบิดเบือนและละเว้นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินเชื่อบ้านด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ค้ำประกัน ในช่วงเวลาที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเริ่มทรุดลง นอกจากนี้ SEC ยังได้ฟ้อง ฟาบรีซ ตูร์เร รองประธานโกลด์แมน แซคส์ด้วย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับนักลงทุนซึ่งมีปฏิกริยาเชิงลบต่อเรื่องนี้ด้วยการเทขายหุ้นธนาคารรายใหญ่ โดยข่าวนี้สร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้นในตลาดที่หวั่นเกรงว่าอาจมีธนาคารใหญ่รายอื่นๆพัวพันกับเรื่องนี้หรือกำลังถูกตรวจสอบอยู่
อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวของ SEC ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขาย โดยบาร์เคลย์ส ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤษลบ 2.6% ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ., เอชเอสบีซี ธนาคารใหญ่สุดของยุโรปลบ 2% และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 2.2%
อย่างไรก็ดี หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์สวนกระแส ด้วยการปิดพุ่ง 5.1% หลังแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ โกลบัล รีเสิร์ช ยกระดับการประเมินราคาหุ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลอังกฤษ อาจกลับมาทำกำไรได้ในปีนี้ หลังจากการลดค่าใช้จ่ายและหนี้เสีย
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองก็ร่วงลงถ่วงตลาดเช่นกัน หลังราคาโลหะปรับตัวลง โดยเอ็กซ์ตราตา ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก รูดลง 4.4% และคาซักมิส ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซักสถาน ร่วงลง 3.8% เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวลง หลังจากดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดทอนความต้องการโลหะ
หุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ลดลง 3.9% และแองโกล อเมริกัน ลบ 3%
ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินได้รับปัจจัยลบจากเหตุภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ ส่งผลให้เกิดเขม่าควันฟุ้งกระจายเป็นจำนวนมากปกคลุมน่านฟ้าในกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และในแถบยุโรป ตอนเหนือจนเป็นเหตุให้ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปดังกล่าวจำเป็นต้องประกาศปิดน่านฟ้าและให้ทุกสายการบินงดทำการบินผ่าน และขึ้นลง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อการทำการบิน
โดยหุ้นบริติช แอร์เวย์ส สายการบินรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป ปิดลบ 3.1% ไรอันแอร์ สายการบินโลว์คอสต์รายใหญ่สุดของยุโรป ร่วง 2.5% หุ้นอีซี่เจ็ท ลบ 1.2%