ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 125. 91 จุด หลัง SEC ฟ้องโกลด์แมน แซคส์

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday April 17, 2010 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงกว่า 100 จุด และเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 วันเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้อง โกลด์แมน แซคส์ ข้อหาฉ้อโกงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินเชื่อซับไพรม์หนุนหลัง ประกอบกับรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่ดีอย่างที่ตลาดคาดการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 125.91 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 11,018.66 จุด หลังจากที่ปิดในแดนบวกมา 6 วันติดต่อกัน และเป็นการปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน หรือตั้งแต่เดือนก.ย. 2551

ดัชนี S&P 500 ทรุดลง 19.54 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 1192.13 จุด และ ดัชนี Nasdaq ลบ 34.43 จุด หรือ 1.37% ปิดที่ 2,481.26 จุด

หุ้นกลุ่มการเงินทรุดหนักสุด นำโดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ที่ดิ่งลง 13% มากสุดในรอบ 15 เดือน โดยนักลงทุนเทขายหุ้นหลังทราบรายงานข่าวว่า SEC ฟ้อง โกลด์แมน แซคส์ ข้อหาที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลสำคัญแก่นักลงทุนก่อนทำข้อตกลงซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อซับไพรม์หนุนหลังหรือค้ำประกัน

โดย SEC ระบุในแถลงการณ์ว่า โกลด์แมน แซคส์ กล่าวบิดเบือนและละเว้นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินเชื่อบ้านด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ค้ำประกัน ในช่วงเวลาที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังเริ่มย่ำแย่ นอกจากนี้ SEC ยังได้ฟ้อง ฟาบรีซ ตูร์เร รองประธานโกลด์แมน แซคส์ด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ อาจสูญเสียลูกค้าหรือคู่ค้า หลังจากเกิดคดีฟ้องร้องนี้ขึ้น

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลบ 5.49% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยผลกำไรดีเกินคาด ส่วนเจพีมอร์แกน เชส ลบ 4.73% มอร์แกน สแตนลีย์ ร่วง 5.6% และ ซิตี้กรุ๊ปลดลงราว 5% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับคดีฟ้องร้องโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งสะท้อนว่าผลพวงจากวิกฤตการเงินยังไม่หมดสิ้น ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้นในตลาดว่าจะมีสถาบันการเงินอื่นพัวพันกับคดีนี้หรือไม่

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็ถูกแรงขายกดดันเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้อาจเผชิญความท้าทายในอนาคต

หุ้นกูเกิลร่วง 7.6% มากสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2551 หลังจากบริษัทเสิร์ชเอ็นจินยักษ์ใหญ่รายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่แม้ว่าจะพุ่งขึ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ไว้

กูเกิลรายงานรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 37% ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการโฆษณาออนไลน์เริ่มดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอยแล้ว และเร็วกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่สดใสก็ยังไม่เพียงพอกับที่นักลงทุนได้ตั้งความหวังเอาไว้สูงมาก

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส หรือ เอเอ็มดี ลดลง 3.4% หลังบริษัทผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์รายใหญ่อันดับ 2 เผยยอดขายไตรมาสแรกน้อยกว่า อินเทล คอร์ป คู่แข่งรายสำคัญ พร้อมทั้งยังคาดการณ์ด้วยว่า รายได้ในไตรมาสปัจจุบันอาจลดลงถึง 5% จากไตรมาสแรก

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายวานนี้ยังได้รับปัจจัยลบจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ลดลงแตะ 69.5 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 73.6 ในเดือนมี.ค. นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนและสวนทางกับที่นักวิเคราะห์หวังว่าจะเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 75 ส่งผลให้หุ้นอ่อนตัวในช่วงเปิดตลาด

ทั้งนี้ แม้กระทรวงพาณิชย์รายงานก่อนตลาดหุ้นเปิดทำการซื้อขายว่า ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.6% หรือในอัตรา 626,000 หลังต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ตลาดไม่ขานรับปัจจัยบวกดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ