บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ"หุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)จากแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งน่าประทับใจจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้นและปริมาณขายที่สูงขึ้น หลัก ๆ จากแหล่ง MTDJA และอาทิตย์เหนือ เรายังเชื่อว่าความเสี่ยงที่บริษัทจะบันทึกค่าใช้จ่ายจากแหล่ง Montara มาก ๆ อีก นั้นค่อนข้างจำกัด ราคาเป้าหมาย 174 บาท (DCF)
คาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q53F เพิ่มขึ้น 26.7% YoY และ 56.5% QoQ มาอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท หลัก ๆ มาจากปริมาณขายที่สูงขึ้น (+16.9% YoY และ +1.7% QoQ) และราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่สูงขึ้น (+19% YoY และ +1.5% QoQ) ส่วนปัจจัยขับเคลื่อนอื่น ๆ คือ การไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการรั่วไหลของน้ำมันที่โครงการ Montara
เราคงประมาณการผลประกอบการสำหรับปี 2553-55F แต่เราเชื่อว่าประมาณการของเราค่อนข้างเข้มงวด เมื่อพิจารณาถึงการคาดการณ์ผลการดำเนินงานใน 1Q53F ที่จะออกมาดี เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2553F ของ PTTEP จะเพิ่มขึ้น 31.1% YoY มาอยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท อิงจากสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบที่เข้มงวดที่ 65.5 เหรียญฯ/บาร์เรล เทียบกับราคาที่ 76.6 เหรียญฯ/บาร์เรลในปัจจุบัน
ขณะที่บทวิเคราะ บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า PTTEP จะแจ้งกำไรสุทธิ 1Q53 ออกมาที่ 7,715 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 66% QoQ และ 34% YoY โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลจากการลดลงของค่าตัดจำหน่ายหลุมแห้งและความเสียหายจากแหล่งมอนทาราที่ลดลง ส่วนกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจาก 1Q53 มีปริมาณขายและราคาขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเพราะแหล่ง MTJDA และ แหล่งอาทิตย์เหนือเริ่มทำการผลิต ส่วนราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
ส่วนผลประกอบการทั้งปีเรายังคงประมาณการไว้ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิในปีนี้ประมาณ 38,083 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 72%yoy ด้วยผลประกอบการที่ยังเติบโตและราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองถือเป็นโอกาสในการเข้า “ซื้อ"โดยมีราคาเป้าหมายปี 53 ที่ 176 บาท