โบรกฯแนะ"ซื้อ"IRPCรับประโยชน์ควบรวมเครือปตท.-โครงการพัฒนาที่ดินส่งผลดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 19, 2010 10:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) มองว่าธุรกิจได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการกับบริษัทในกลุ่ม ปตท.ขณะที่บริษัทมีจุดเด่นอยู่ที่โครงการพัฒนาที่ดินในการครอบครองที่จ.ระยองเป็นนิคมอุตสาหกรรมสะอาดและพลังงานทางเลือก ส่งผลดีต่อรายการและการทำกำไรในอนาคต

พร้อมกันนั้นยังคาดว่ากำไรไตรมาส 1/53 แนวโน้มฟื้นตัวตามทิศทางค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยจะเติบโตทั้งเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 4/52 ขณะที่กำไรทั้งปี 53

          โบรกเกอร์         คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ฟินันเซียไซรัส      ซื้อ             5.50
          บล.ทรีนิตี้            ซื้อ             5.30
          บล.เอเซียพลัส        ซื้อ             4.77
          บล.กิมเอ็ง        เก็งกำไร           4.80
          บล.โกลเบล็ก      เก็งกำไร           4.60

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่ากำไรของ IRPC ในปีนี้ดีขึ้น เพิ่มเป็น 8,177 ล้านบาท จากปี 52 ที่มีกำไร 5,415 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/53 มีกำไรสูงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเพราะธุรกิจโรงกลั่นฟื้นตัว โดยอุตสาหกรรมรวมมีค่าการกลั่นในไตรมาส 1/53 อยู่ระดับ 4.92 เหรียญ/บาร์เรล โดยของ IRPC จะอ่อนตัวลงกว่านี้ตามสภาพโรงกลั่น ส่วนสเปรดเม็ดพลาสติกปีนี้ไม่สูงมาก

ส่วนการควบรวมคาดว่าจะรู้ผลในกลางเดือนพ.ค. ว่าจะมีการควบรวมกับบริษัทไหนบ้างในกลุ่มปตท.ด้วยกัน

"เราให้เก็งกำไร เพราะธุรกิจโรงกลั่นฟื้นตัว ถึงแม้กำไรทั้งปีดูสูง แต่เมื่อดูกำไรต่อหุ้นยังน้อย เพียง 41 สตางค์ และราคาหุ้นก็มี P/E สูงถึง 12 เท่า ถ้าเทียบกับราคาหุ้น PTTAR และ TOP ซื้อขายบน P/E ประมาณ 8-9 เท่าเอง"นายกิติชาญ กล่าว

ด้านนางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ราคาหุ้น IRPC ลงมาน่าสนใจที่จะเข้าซื้อ โดยประเมินว่ากำไรในไตรมาสแรกคาดว่าจะดีขึ้นเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเทียบกับไตรมาส 4/52 แต่ก็ต้องพิจารณาตลาดหุ้นภาพรวมด้วยว่าทุนต่างประเทศจะไหลออกชัดเจนหรือไม่

"เราแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 5.30 บาท เพราะ Fundemnental Undervalue และเขามีแผนจะทำให้ ROIC (Return on Investment Capital)เพิ่มขึ้น" นางวชิราลักษณ์ กล่าว

นักวิเคราะห์จาก บล.ฟินันเซียไซรัส มองว่า IRPC จะมีแนวโน้มธุรกิจดีขึ้นหลังจากที่มีการควบรวมกิจการกับบริษัทในกลุ่มปตท. โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2/53 ประกอบกับเห็นว่า IRPC จะเป็นหัวหอกในการขยายกิจการในกลุ่มปตท.ได้ เพราะมีที่ดินในโรงงานที่ จ.ระยองเป็นหมื่นไร่ ซึ่งมองว่าในอนาคตพื้นที่ในนิคมมาบตาพุดที่กลุ่มปตท.ตั้งโรงงานหลายแห่งจะมีความจำกัดและไม่สามารถขยายธุรกิจออกไปได้มากนัก ส่วนผลกำไรของบริษัทในปีนี้มองว่าก็ยังพอใช้ได้

"หุ้น IRPC น่าเข้าซื้อ รอให้ราคาลงมาค่อยซื้อ เพราะเห็นว่า เมื่อ Merge กันแล้วตัว IRPC จะดีขึ้นแน่นอน"นักวิเคราะห์ กล่าว

บทวิจัยของบล.เอเซียพลัส ระบุ IRPC ประกาศแผนการลงทุนในระยะ 5 ปีข้างหน้า(สิ้นสุดปี 2557)ในเบื้องต้นหรือ“Phoenix project"โดยการเปิดเผยเป็นการระบุเฉพาะเจาะจงไปที่ธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้แก่ ที่ดิน ที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ในจังหวัดระยองกว่า 6 พันไร่ ซึ่งมีแผนทำนิคมอุตสาหกรรมสะอาดและโครงการพลังงานทางเลือก โดยจะขออนุมัติแผนดังกล่าวกับคณะกรรมการบริษัทในเร็วๆนี้

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแผนการลงทุนและพัฒนาธุรกิจของ IRPC ในระยะยาวเนื่องจากจะนำมาซึ่งการขยายฐานรายได้และกำไรในระยะยาว โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจากที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาของ IRPC เองซึ่งมีอยู่กว่า 1.5 หมื่นไร่ทั่วประเทศ

นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคตที่ชัดเจนแล้ว IRPC ยังได้รับอานิสงค์จากประเด็นการควบรวมกิจการซึ่งมีความเป็นไปได้ใน 2 แนวทางเลือก คือ 1) IRPC+PTTAR= Merged Co. ซึ่งหากเป็นไปในแนวทางนี้มูลค่าที่ควรจะเป็นของ IRPC จะเท่ากับ 5 บาทต่อหุ้น และ 2) PTTAR เพิ่มทุนเพื่อมาซื้อ IRPC ซึ่งหากเป็นไปในแนวทางนี้ มูลค่าของIRPC ที่เหมาะสมที่จะทำให้ PTTAR เกิด Dilution Effect ในช่วง 10-20% คือ 4.63-5.32 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ