ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกันวันที่สอง จากการที่นักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเดินทาง เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งไอย์ยาฟยัลลาโยกูลในไอซ์แลนด์ส่งผลให้เกิดเขม่าควันปกคลุมน่าฟ้ายุโรปติดต่อกันเป็นวันที่ห้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 16.05 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 5,727.91 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,697.24-5,748.33 จุด
เขม่าควันที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ยังคงฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นบริติช แอร์เวย์ส ปิดร่วง 1.4% หลังจากบริติช แอร์เวย์ส ระบุว่า ทางสายการบินอาจสูญเสียรายได้ราว 15-20 ล้านปอนด์/ต่อวันเนื่องจากเขม่าควันภูเขาไฟทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ขณะที่หุ้นไรอันแอร์ปิดลบ 4.1%
นักวิเคราะห์จากยูบีเอส เอจี ระบุว่า สายการบินทั่วโลกประกาศยกเลิกเที่ยวบินรวมแล้ว 63,000 เที่ยวบิน หลังจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งไอย์ยาฟยัลลาโยกูลในไอซ์แลนด์ส่งผลให้เกิดเขม่าควันทั่วน่านฟ้ายุโรปและส่งผลกระทบต่อการบิน โดยยูบีเอสระบุว่าสายการบินในยุโรป รวมถึงอีซีเจ็ท ไรอันแอร์ บริติช แอร์เวย์ส แอร์ฟรานซ์ ดอยช์ ลุฟท์ฮันซา และไอเบเรีย สูญเสียรายได้รวมกันในขณะนี้ราว 120-140 ล้านยูโร/วัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากซิตี้กรุ๊ปรายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด โดยหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 4.4% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ดีดตัวขึ้น 1.3% และหุ้นธนาคารลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดบวก 1.1%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0% และยังทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง