BAY พอใจกำไร Q1/53 โต 101% จาก Q1/52 หวังผสานธุรกิจในเครือแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 21, 2010 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/53 ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษี จำนวน 6,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบไตรมาส 4/52

และหลังหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 3,182 ล้านบาท และภาษีเงินได้จำนวน 888 ล้านบาท ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/52

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 55% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 89% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพียง 51% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/52 จุดที่ปรับปรุงดีขึ้นได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 12% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 22% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 9%

นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BAY กล่าวว่า พอใจกับการเริ่มต้นที่แข็งแกร่งในปี 53 ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารฉลองการครบรอบปีที่ 65 ของการก่อตั้งโดยผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 1/53 ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนและแผนที่วางไว้ ธนาคารรายงานกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ผลการดำเนินงานที่ดีนี้ทำให้ธนาคารสามารถใช้โอกาสต่อยอดความแข็งแกร่งของงบดุลด้วยการเพิ่มสัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเป็น 79% ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิของธนาคารลดลงอยู่ที่ระดับ 4.9% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนการเร่งลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร

ขณะที่การดำเนินงานด้านการผสานธุรกิจของบริษัทในเครือธนาคารให้มีความกระชับมากขึ้น เป็นไปด้วยดีตามแผน 12 เดือนที่วางไว้ ผลกำไรที่ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการผสานธุรกิจและการสร้างประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของธนาคารและบริษัทในเครือกำลังเริ่มส่งผล

และมั่นใจว่าโครงสร้างที่แข็งแกร่งของธนาคารที่เราสร้างขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้สำหรับปีนี้ จากนี้ธนาคารยังคงทุ่มเททำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะรักษาระดับการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

อนึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.53 ตามงบการเงินรวม ธนาคาร มีสินทรัพย์รวม 821,632 ล้านบาท มีสินเชื่อรวม 606,921 ล้านบาท มีเงินฝาก 534,019 ล้านบาท และมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 14.5% โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ระดับ 11.75%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ