นายเอกกมล คีรีวัฒน์ ประธานกรรมการ บล.ซีมิโก้(ZMICO)เปิดเผยว่า บริษัทยังเหลือใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.ซีมิโก้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการและฝ่ายบริหาร เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอาจพิจารณาจะขายใบอนุญาตดังกล่าว หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คาดได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 53 รายได้จะมีลักษณะเป็นโฮลดิ้งคอมปานี โครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจหลักทรัพย์ภายใต้การดำเนินงานของ บล.เคทีซีมิโก้ ธุรกิจจัดการกองทุนภายใต้ บลจ.ซีมิโก้ และ การลงทุนโดยบริษัทเองและการบริหารเงินลงทุน
ผลงานของบริษัทในปีนี้ขึ้นกับการดำเนินงานของ บล.เคทีซีมิโก้ หลังจากได้มีการรควบรวมกับ บล.เคทีบี ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 52 ที่เริ่มมีกำไรแล้ว 17 ล้านบาท จากปีก่อนหน้านี้ที่ขาดทุน 160 ล้านบาท โดยในปีนี้ บล.เคมีซีมิโก้ คงมุ่งทำการตลาดและใช้ช่องทางผ่าน 800 สาขาของธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดี
"ปีนี้รายได้ก็จะมาจากบล.เคทีซีมิโก้ ถ้าปิดงบฯมีกำไรเราก็จะรับรู้รายได้ และต้องรอดูการบริหารงานของบล.ในเวียดนาม เราเป็นบ.แม่ ธุรกิจหลักอยู่ที่ลูก แต่ปีนี้บ.แม่ก็กำลังพิจารณาว่าจะหารายได้จากอย่างอื่นด้วยนอกเหนือจากที่จะมาจากลูก" นายเอกกมล กล่าว
ส่วนของการลงทุนในหุ้นของบล.Thanh Cong ในประเทศเวียดนาม ในสัดส่วน 18.88% นั้นก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการโอนขายเงินลงทุนดังกล่าวให้แก่ บล.เคทีซิมิโก้ คาดว่าจะทำการโอนขายได้ภายในไตรมาส 3/53 และขณะนี้ บล.Thanh Cong ได้เริ่มส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นบ้างแล้วแต่ยังไม่มาก
การลงทุนในเวียดนามหลังจากนี้จะเป็นช่วงรอรับผลตอบแทน คาดว่าน่าจะออกมาดี เพราะมองว่าเป็นตลาดที่น่าจะเติบโตในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และการที่บริษัทเข้าไปรุกตลาดดังกล่าวในช่วงแรกจะได้ปรียบ จากการที่มี knowhow ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมบุคลากร เบื้องต้นมอบหมายให้ นายเชาว์ อรัญวัฒน์ เข้าไปดูแล