นายอรรถพล สฤษฏิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC)เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินเลื่อนการพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่าแห่งใหม่ย่านพหลโยธินไปก่อน จากแผนเดิมที่คาดว่าจะได้เห็นในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ความต้องการในการขยายงานของบริษัทต่างๆ ลดลง ขณะที่อัตราค่าเช่าโดยรวมก็ปรับลดลงไปแล้วราว 5-10% ซึ่งบริษัทจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในปี 54
ปัจจุบัน บริษัทมีอาคาร-สำนักงานให้เช่า 3 แห่งได้แก่ อาคารชินวัตร 1, ชินวัตร 2 และชินวัตร 3 ซึ่งก็ยังมีอัตราการเช่าที่ดี และยังไม่พบการยกเลิกเช่าพื้นที่ ถึงแม้จะไม่เห็นพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่า แต่ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานในปีนี้ เพราะสัดส่วนรายได้ที่มาจากการเช่ายังไม่มากแค่เพียง 20% รายได้หลักยังคงมาจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 80%
และในปีนี้บริษัทก็จะหันมาให้ความสำคัญโดยเฉพาะโครงการแนวราบที่ความต้องการค่อนข้างมาก
"เท่าที่เราดูสถานการณ์และดีมานด์การเช่าอาคารสำนักงานน้อยมากและโดยรวมลดลงด้วยซ้ำเพราะไม่มีใครกล้าที่จะขยายงานไม่กล้าลงทุนเพราะเศร ษฐกิจไม่ดี เราก็เลยตัดสินใจไม่ทำไม่ลงทุนในปีนี้ปีหน้าค่อยดูกันอีกที เราคิดจะทำตั้งแต่ปี 2551 และเห็นเป็นรูปเป็นร่างในปีนี้ แต่เมื่อทุกอย่างไม่เอื้ออย่าทำดีกว่าสู้หันไปทำขยายโครงการแนวราบที่ตอนนี้ความต้องการมีมาก" นายอรรถพล กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร SC กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีอยู่ค่อนข้างมากและต่อเนื่อง โดยมีสัญญานมาตั้งแต่ช่วงต้นปี แม้จะมีสถานการณ์ทางการเมืองเข้ามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจบ้าง ซึ่งบริษัทก็จะเร่งกระตุ้นตลาดให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/53 บริษัทมียอดขายใกล้เคียงเป้าที่วางไว้ 1.2 พันล้านบาท และยังไม่มีการปรับรายได้ในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ 6 พันล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่รายได้รวม 4,749 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการของลูกค้าเข้ามายังมีค่อนข้างมาก โดยรายได้จะมาจากทั้งโครงการเดิมที่มีอยู่ประมาณ 10 โครงการมูลค่า 3 พันล้านบาท รวมทั้งโครงการใหม่ในปีนี้ 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 8 โครงการ และที่เหลือจะเป็นแนวสูง
ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการ คือ แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา ซึ่งมีมูลค่า 720 ล้านบาท และโครงการโครงการ โฮม ออฟฟิศ เพลส เพชรเกษม 81 มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท ส่วนโครงการที่เหลือจะไปเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาทำเล ความต้องการ และจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่คงจะเห็นการพัฒนาในปี 54 มากว่า โดยปัจจุบันศึกษาพื้นที่หัวหิน-ภูเก็ต ขณะเดียวกันบริษัทก็จะต้องมีการสร้างบุคคลากรในการขยายฐานตลาดต่างจังหวัดควบคู่ไปด้วย