นายปรีชา เอกคุณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)คาดว่า ยอดขายในไตรมาส 2/53 ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/53 แม้จะเกิดสถานการณ์การเมืองวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในย่านราชประสงค์ แต่เพราะบริษัทไม่มีสาขาอยู่บริเวณดังกล่าวจึงไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม สาขาสุขุมวิทได้รับผลกระทบบ้างจากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง
"สาขาสุขุมวิทก็มีผลกระทบบ้าง แต่ยังไม่เยอะ คนแถวนั้นก็ยังเข้ามา แต่โดยรวมเราไม่เห็นกระทบค่อนข้างมาก...ยอดขายในกรุงเทพกับต่างจังหวัดพอๆ กัน"นายปรีชา กล่าวก้บ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ บริษัทยังคาดว่าทั้งปี 53 ยอดขายจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโต 12% จากปีก่อน
นอกจากนี้ โรบินสันมีจุดเด่นที่มีสาขาครอบคลุม 14 จังหวัด โดยมีสาขาในกรุงเทพ 9 สาขา และในต่างจังหวัด 13 สาขา รวม 22 สาขา ช่วยกระจายความเสี่ยง รวมทั้งมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง ปีนี้จะเปิดสาขาใหม่ที่จ.ตรัง ในไตรมาส 4/53 และปีหน้าจะเปิด 3 สาขา ได้แก่ เชียงรายในไตรมาส 1/54 , พิษณุโลก เปิดในไตรมาส 3/54 และ ถนนพระราม 9 ในไตรมาส 4/54
ประกอบกับ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่เป็นแบรนด์เฉพาะของโรบินสัน หรือ Private Brand ซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 40-60% ขณะที่สินค้าทั่วไปมีอัตรากำไรขั้นต้น 20-25% โดยปีนี้พยายามจะเพิ่มสัดส่วนของสินค้า Private Brand มากขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนยอดขาย 7%
สำหรับการดำเนินการหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท จำนวน 6,764,000 หุ้น คิดเป็น 0.61% ของทุนชำระแล้ว มูลค่ารวม 39,381,950 บาท หรือคิดเป็นราคาต่อหุ้นประมาณ 6 บาท นายปรีชา กล่าวว่า บริษัทจะหาจังหวะขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่จำเป็นรีบร้อน เพราะบริษัทยังมีเวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี