นางเสาวนีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย(TMB)กล่าวว่า ธนาคารได้เสนอแนวทางการลดมูลค่าที่ตราไว้(พาร์)เพื่อล้างขาดทุนสะสมให้กับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และกระทรวงพาณิชย์แล้ว รวมถึงประเด็นการหารือข้อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคารได้ประสานงานกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับแนวทางการลดพาร์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 52 แล้ว ซึ่งมองว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นมากกว่าการลดจำนวนหุ้น ซึ่งตามขั้นตอนหากได้รับอนุมัติแล้ว ก็จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อกำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น รวมทั้งขออนุมัติจากธปท.และจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกระบวนการทั้งหมดน่าจะใช้เวลาประมาณ 45-75 วัน
แต่กระบวนการทั้งหมดจะดำเนินการภายหลังจากที่กระทรวงการคลังจะแปลงหุ้นบุริมสิทธิที่จะครบกำหนดใน พ.ค.53 ยืนยันว่าแนวทางการลดพาร์จะไม่กระทบกับธนาคาร เนื่องจากปัจจุบันธนาคารมีฐานะการเงินมั่นคง มีกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS)ในระดับ 17.41% มากกว่าเกณฑ์ที่ธปท.กำหนด เพียงพอรองรับการขยายตัวของสินเชื่อได้
ส่วนการจ่ายเงินปันผลน่าจะดำเนินการภายหลังการแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์ และลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมไปได้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการและผู้บริหารมีความตั้งใจที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดยเห็นว่าธนาคารมีผลกำไรที่ดีขึ้น และต้องการจ่ายเงินปันผลหากสถานการณ์เอื้ออำนวย
นายบุญทักษ์ กล่าวอีกว่า ในปี 53 ธนาคารตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 10% จากระดับ12.7% ณ สิ้นปี 52 แนวทางมาจากการเสนอขาย NPL ซึ่งในเดือน เม.ย.จะมีการเซ็นสัญญาขาย NPL บางส่วนจำนวน 6 กอง มูลค่ารวม9 พันล้านบาท ให้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(บสก.)ส่วนแนวทางอื่น ๆ คือการปรับโครงสร้างหนี้ และ บริหาร NPL ด้วยตัวเอง