ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) ขานรับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส โดยเฉพาะยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากกระแสความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกรีซ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 69.99 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 11,204.28 จุด ดัชนี S&P 500 เดินหน้าขึ้น 8.61 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 1,217.28 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 11.08 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 2,530.15 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.21 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 2
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนต่างให้ความสำคัญกับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค และการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชน ทำให้ปัจจัยลบที่เกิดจากความวิตกกังวลต่อข่าวการฟ้องร้องโกลด์แมน แซคส์ในคดีฉ้อโกงเริ่มเบาบางลง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.พุ่งสูงขึ้น 27% แตะระดับ 411,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้านี้ เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
นอกจากนี้ ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ยังปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา และทำสถิติขยายตัวรายเดือนได้สูงสุดในรอบ 47 ปี อีกทั้งยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวแตะ 330,000 ยูนิต
การรายงานยอดขายบ้านใหม่ได้ช่วยหนุนให้ภาวะการซื้อขายในตลาดดีขึ้นหลังจากที่ตลาดเปิดทำการท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกรีซ ที่ได้ขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
นอกจากนั้นแล้ว ยอดขายบ้านใหม่ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานในก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 6.8% แตะที่ 5.35 ล้านยูนิต เนื่องจากชาวสหรัฐใช้ประโยชน์จากโครงการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้าน
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อสินค้าในหมวดการขนส่งที่พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2550 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกทั่วทั้งกระดาน เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ตลาดดังกล่าวเป็นอีกภาคส่วนหนึ่งในระบบเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในช่วงที่ผ่านมา