นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการและรองผู้จัดการ บมจ.ไพลอน(PYLON)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ยอมรับว่า มีความกังวลงานที่บริษัทส่งประมูลใหม่ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาทอาจจะมีความล่าช้าออกไป เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น และหากการชุมนุมยืดเยื้อ อาจจะส่งผลกระทบต่อโดยรวมภาคธุรกิจได้ แต่บริษัทยังเชื่อว่าในที่สุดแล้วก็จะได้รับงานดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทพยายามเจาะฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติมควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน ซึ่งยังมีอีกหลายกลุ่มที่สามารถขยายฐานเพิ่มได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับงานฐานรากทั้งจากภาครัฐและเอกชนมูลค่ารวมประมาณ 120 ล้านบาทและคาดว่าจะบันทึกรายได้ในไตรมาส 2/53 ซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง
"ตอนนี้เราประเมินค่อนข้างลำบากว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะยืดเยื้อขนาดไหน แต่เชื่อว่าทุกคนอยากให้จบโดยเร็วเพราะไม่ดีกับผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ โชคดีที่งานลูกค้าที่เรารับส่วนใหญ่จะอยู่รอบนอกอย่าง สุขุมวิท หรือ วงเวียนใหญ่ แต่เราก็เป็นห่วงงานที่ส่งประมูลจะได้รับผลพวงทำให้มีความล่าช้า"นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 53 คาดว่าบริษัทจะยังสามารถรักษารายได้ไว้ที่ประมาณ 500-700 ล้านบาท แม้จะมีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบภาพรวมการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทยังเชื่อว่าโครงการใหม่ ๆ ของภาครัฐก็ยังจะทยอยออกมาต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ที่เริ่มฟื้นตัวซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อธุรกิจ
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ(Backlog) ประมาณ 200 ล้านบาท และได้ยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติม บริษัทยังคงเดินหน้าร่วมประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มจำนวน Backlog ให้มากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับงานในภาครัฐเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะเริ่มมีงานในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการประมูลนั้นจะช่วยให้มีงานเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และยังถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากมีความพร้อมในการรับงานในโครงการขนาดใหญ่เป็นอย่างดี ทั้งด้านกระแสเงินสดประสบการณ์ในโครงการขนาดใหญ่รวมทั้งเครื่องมือและบุคลากรที่มี นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้รับงานได้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อธุรกิจ