โบรกฯ แนะ"ซื้อ"BSBM คาดกำไร Q2/53 โดดเด่นตามราคาเหล็กพุ่ง-ลุ้นปันผลงาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 26, 2010 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางสะพานบาร์มิล(BSBM) มองกำไรไตรมาส 2/53 โดดเด่นหลังราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้ ล่าสุดมาที่ 21,500-22,500 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/53 ที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19,000-19,500 บาท/ตัน ขณะที่ต้นทุนต่ำตามเหล็กในสต็อก ส่งผลดีต่อการยอดขายในประเทศ ผลักดันกำไรบริษัททั้งปีเพิ่มขึ้น แถมลุ้นมีปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีแรกโดดเด่น และทั้งปีปันผลสูงถึง 80% ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิของปี 53 อยู่ในระดับ 216-232 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 112.67 ล้านบาทในปี 52

ล่าสุด ราคาหุ้น BSBM ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 1.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท(+2.16%) โดยเปิดตลาดที่ 1.42 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.42 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.42 บาท

          โบรกเกอร์                คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.กิมเอ็ง                 ซื้อ            1.80
          บล.โกลเบล็ก               ซื้อ            1.71
          บล.ซิกโก้                  ซื้อ            1.75
          บล.ดีบีเอส                 ซื้อ            1.79
          บล.ยูไนเต็ด                ซื้อเมื่ออ่อนตัว    1.70
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า ราคาเหล็กในตลาดโลกมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่องส่งผลต่อราคาขายในประเทศของ BSBM ด้วย โดยข้อตกลงราคาสินแร่เหล็ก(Iron Ore)ระหว่าง เม.ย.-มิ.ย.53 ราคาพุ่งขึ้นถึง 90% ราคาตกลงสินแร่เหล็กรอบใหม่นี้มากกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้านี้ โดยในช่วงปลายปี 2552 ตลาดคาดจะปรับขึ้น 20-30% ต่อมาเพิ่มการคาดการณ์เป็น 40-60% ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.53 และเป็น 60-80% ในช่วงครึ่งแรกของเดือน มี.ค. 53 และ ข้อตกลงใหม่ราคา Coking Coal ก็ปรับขึ้น 56% เป็น 200 เหรียญ/ตัน จาก 128-129 เหรียญ/ตัน ในปีก่อน แรงกดดันด้านต้นทุนดังกล่าว คาดว่าจะยังผลักดันให้ราคาเหล็กในตลาดโลกยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 2/53 กำไรจะโดดเด่นกำไรพุ่งเป็น 100-130 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากการราคาเหล็กเส้นปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังสงกรานต์ปรับเพิ่มขึ้นดป็น 21,500-22,000 บาท สะท้อนตามต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ BSBM ยังมีสต็อกต้นทุนเก่าประมาณ 45,000 ตัน ซึ่งราคาต่ำกว่าราคานำเข้าเศษเหล็กปัจจุบันค่อนข้างมาก ส่งผลให้กำไรไตรมาส 2 พุ่งและแนวโน้มกำไรทั้งปีอยู่ที่ 232 ล้านบาท

ด้าน บล.โกลเบล็ก มองว่า แนวโน้มผลประกอบการของ BSBM ไตรมาส 2/53 ยังโดดเด่น โดยเติบโตจากไตรมาส 1/53 หลังทิศทางราคาเหล็กปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาในตลาดโลก และยังมียอดส่งมอบสินค้าล่วงหน้าราว 7-8 พันล้านบาท และราคาขายเพิ่มขึ้นเป็น 22,500 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/53 ที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19,000-19,500 บาท/ตัน

ส่วนไตรมาส 1/53 คาดว่า BSBM จะมีกำไร 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาส4/52 ประมาณ 48% เนื่องจากแนวโน้มความต้องการสินค้าเหล็กเส้นยังไม่แข็งแกร่งนัก

ขณะที่ผลประกอบการทั้งปี 53 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากแนวโน้มราคาขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ BSBM ยังมีสต็อกสินค้าราคาถูกทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก คาดจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาล 1H52 ในระดับที่โดดเด่น

นักวิเคราะห์ จากบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ มองว่า BSBM มีจุดเด่นคือการบริหารงานอย่างระมัดระวังไม่มีนโยบายการเก็งกำไรราคาวัตุดิบ โดยกำไรสุทธิปี 53 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทจะเน้นทั้งด้านการเติบโตของยอดขายและการเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยคาดกำไรสุทธิปี 53 ที่ 216 ล้านบาท แลปี 54 ที่ 256 ล้านบาท

BSBM บริหารวัตถุดิบได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถซื้อวัตถุดิบในปริมาณที่ดีและราคาไม่สูง และการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทำให้ Conversion cost ลดลง ขณะที่ราคาเหล็กเดือนเม.ย.กระเตื้องขึ้น 5-10% MoM เป็น 2.1-2.2 หมื่นบาทต่อตัน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเหล็กแท่งสูงขึ้น เป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินแร่เหล็กและราคาถ่านโค้กในตลาดโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ BSBM มีการจ่ายปันผลสูงมาอย่างต่อเนื่อง หากเราให้อัตราการจ่ายเงินปันผลของปี 53 เท่ากับปี 52 ที่ 80% พบว่าในปีนี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 0.15 บาท ซึ่งคิดเป็น Dividend Yield ที่สูงถึง 10.3% นับว่าจูงใจมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ