บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)ตั้งความหวังจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรก หากผลประกอบการในปีนี้มีกำไรที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน แต่คงต้องจัดการกับปัญหาขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 42 ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำได้ ไม่มีปัญหา โดยอาจจะใช้แนวทางลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมทางบัญชี ซึ่งก็คงจะต้องขอฉันทามติจากเจ้าหนี้ก่อน ยอมรับยังห่วงการเมืองถ่วงธุรกิจ พร้อมมุ่งลดหนี้ลงต่อเนื่อง
“ในปี 53 ก็พยายามจะมีกำไรต่อเนื่อง ดีกว่าปีที่แล้ว ถ้าสามารถมีผลประกอบการได้ดีตามคาดหมาย ก็มีโอกาสที่จะเริ่มจ่ายปันผลได้...เราอยากจะจ่ายปันผลให้ได้เร็วที่สุด" นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานคณะผู้บริหาร TRUE กล่าว
นายศุภชัย คาดว่า ปี 53 บริษัทจะทำกำไรได้ดีต่อเนื่องจากปี 52 ที่มีกำไร 1.2 พันล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 511 ล้านบาท ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนรายได้รวมปีนี้คาดโต 3-4% จากปีก่อนจากภาวะเศรษฐกิจฟื้น
ตั้งแต่เข้าตลาดมา บริษัทขาดทุนต่อเนื่องมาเพราะบริษัทเริ่มเข้าทำธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานที่อยู่ในช่วง sunset และเข้าสู่ตลาดให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นลำดับที่ 3 ช้ากว่ารายอื่น แต่ก็ยังดีว่าธุรกิจโทรศัพท์มือถือภายใต้“ทรูมูฟ"ในปีที่ผ่านเริ่มทำกำไรในไตรมาส 4/52 และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงมีรายรับค่าเชื่อมโยงโครงข่าย(IC) เป็นผลจากการออกแคมเปญกระตุ้นการใช้งานในโครงข่ายเดียวกัน
นายศุภชัย คาดว่าปีนี้รายได้กลุ่ม TRUE จะเติบโต 3-4% จากปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น และเติบโตต่อเนื่องจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ทรูมูฟ, ทรูวิชั่น และ ทรูออนไลน์ ซึ่งรวมธุรกิจอินเตอร์เน็ตบรอดแบรนด์ บริการโครงข่ายข้อมูล โทรศัพท์พื้นฐาน และ โทรทางไกลต่างประเทศ โดยกลุ่ม TRUE จะยังใช้กลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ต่อไป จากปีก่อนประสบความสำเร็จ โดยมีลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการกลุ่มทรู มากกว่า 2 บริการขึ้นไป จำนวนถึง 2.3 ล้านครัวเรือน หรือเพิ่มขึ้น 23%
“เราค่อนข้างมั่นใจรายได้เราดีขึ้นแน่ แต่เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่มีการชุมนุม ก็กลัวว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทย และธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ยากคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ก็อยากให้จบเร็วๆ ไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจกระทบแน่" กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRUE กล่าว
ในปี 52 ทรูมูฟมียอดผู้ใช้บริการ 15.8 ล้านราย , ลุกค้าอินเตอร์เน็ตบรอนแบรด์ 6.9 ล้านราย และ ลูกค้าทรูวิชั่น 1.7 ล้านราย
นายศุภชัย ยังกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมุ่งจะลดหนี้ลงไปอีก จากปีที่แล้วลดเหลือ 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินในปี 40 โดยปีก่อน TRUE ได้คืนหนี้ไปจำนวน 6.,800 ล้านบาท
ด้านนายนพปฏล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน TRUE กล่าวว่า บริษัทมีแผนรีไฟแนนซ์หนี้จำนวน 27,843 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นการออกหุ้นกู้ 13,000 ล้านบาท และ เงินกู้ระยะสั้น 1,800 ล้านบาท โดยพยายามยืดอายุหนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ปี 53 บริษัทมีภาระชำระคืนหนี้จำนวน 3,600 ล้านบาท
ดังนั้น บริษัทได้ขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน ไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท อายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อนำไปชำระคืนหนี้เป็นส่วนใหญ่ และขยายธุรกิจบางส่วน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดแผนชัดเจนในการเสนอขายหุ้นกู้ โดยจะรอดูจังหวะของตลาดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในปี 52 บริษัทได้ออกหุ้นกู้จำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท อายุ 5 ปี
นายศุภชัย กล่าวเสริมว่า การลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ 3-4 พันล้านบาท โดยจำนวนนี้ 1 พันล้านบาทใช้ลงทุน 3G บนคลื่นเดิม 850 MHz ส่วนงบลงทุน 3G บนคลื่นใหม่ ยังไม่ได้กำหนดงบลงทุน