ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์การเงินอาจลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของโปรตุเกสและกรีซ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐดำเนินการไต่สวนผู้บริหารของโกลด์แมน แซคส์ ยังทำให้เกิดความกังวลว่าอาจนำไปสู่การปฏิรูปภาคการเงินในสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 213.04 จุด หรือ 1.90% ปิดที่ 10,991.99 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 28.34 จุด หรือ 2.34% ปิดที่ 1,183.71 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 51.48 จุด หรือ 2.04% ปิดที่ 2,471.47 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.277 หมื่นล้านหุ้น และปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น
นักวิเคราะห์จากแฮร์ริสัน ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดิ่งลงถ้วนหน้าหลังจากเอสแอนด์พี ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ "ระดับขยะ" หรือ "junk status" และลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ขั้น สู่ระดับ A- จากระดับ A+ นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 1.1% เมื่อเทียบกับยูโร อีกทั้งทำให้ราคาทองคำและราคาพันธบัตรทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจยุโรปอย่างมาก แม้มีรายงานว่ารัฐบาลกรีซได้ยื่นขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจำนวนเงินดังกล่าวอาจไม่มากพอ และอาจทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าแผนการช่วยเหลือกรีซอาจชะงักงัน หลังจากนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีประกาศว่าจะยังไม่ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่กรีซจนกว่ากรีซจะกำหนดแผนการระยะยาวในการลดตัวเลขขาดดุลบัญชีงบประมาณ
ทั้งนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินของประเทศยุโรปและข่าวการลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซและโปรตุเกส ได้ส่งผลบดบังผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมถึง 3M และดูปองท์ อย่างไรก็ตาม หุ้น 3M ปิดพุ่ง 53 เซนต์ แตะที่ 87.97 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นดูปองท์ปิดบวก 1.55 ดอลลาร์ แตะที่ 39.42 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐดำเนินการไต่สวนผู้บริหารของโกลด์แมน แซคส์ ในกรณีที่โกลด์แมน แซคส์ หาประโยชน์จากภาวะฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัย และทำกำไรหลายพันล้านดอลลาร์จากการทรุดตัวของตลาด ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจนำไปสู่การปฏิรูปภาคการเงินในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูร่างกฎหมายการปฏิรูปกฎระเบียบด้านการเงินซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลังจากร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่านการหยั่งเสียงในวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาได้ลงคะแนนเสียง 57 ต่อ 41 เสียง ซึ่งบ่งชี้ว่าวุฒิสมาชิกมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันมากเกินไป
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนก.พ. แต่หากเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนีราคาบ้านทั้งใน 10 และ 20 เมืองเพิ่มขึ้น 1.4 % และ 0.6% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2549
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเฟดสาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกปี 2553