ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียอ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช้านี้ หลังจากที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของโปรตุเกสและกรีซ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า วิกฤตหนี้ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 11,005.51 จุด ลดลง 207.15 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,853.83 จุด ลบ 407.96 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดลบ 0.85% แตะ 2,883.17 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,716.17 จุด ลดลง 33.38 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,944.70 ลบ 201.74 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,948.66 ลบ 43.02 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วง 1.5% แตะ 125.26 จุด เมื่อเวลา 9.54 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ร่วง 1.8% ในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนหุ้นแคนนอน ดิ่ง 3.1% หลังจากที่เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 2.5% หลังจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากข่าวเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของโปรตุเกสและกรีซ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจอาจลุกลามไปทั่วยุโรป และจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์พลังงานทั่วโลกด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดกลับมามีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องวิกฤตการณ์การเงินของยุโรปมากขึ้นอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเลี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง