นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม เพิ่มขึ้นเป็น 15% ในปี 54 จากปีนี้อยู่ที่ 10% และจะทยอยเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องจากช่วง 3-4 ปีข้างหน้ามากขึ้นอีก เนื่องจากความต้องการคอนโดมิเนียมขยายตัวขึ้น และมีรูปแบบการซื้อเพื่อการลงทุนมากขึ้น ไม่ใช่การเก็งกำไรเหมือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของบริษัท ยังมาจากโครงการบ้านเดี่ยวที่มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 70-80%
นายอดิศร กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมีการตัดสินใจซื้อบ้านที่มากขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แม้จะมีปัจจัยการเมืองกดดันทางอ้อม แต่ไม่ได้กระทบกำลังซื้อประชาชน โดยยอดขายในไตรมาส 1/53 เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ไตรมาส 2/53 ยอดขายยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจ ทำให้เชื่อว่าในปีนี้การเติบโตของรายได้ยังเป็นไปตามที่ประมาณการไว้ที่ 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 17,912 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,495 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นจากปีก่อน โดยจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 3-4 โครงการ จากเดิมเปิดไปเพียง 2 โครงการ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการขยายสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียม
ขณะที่มาตรการลดหย่อนภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค.53 อาจจะกระทบต่ออัตรากำไรสุทธิ(net profit margin)ของบริษัทในปีนี้ที่จะลดลง และอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบการก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้ทยอยปรับราคาขายบ้านเพื่อชดเชย และจากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31%
นายอดิศร ยังกล่าวถึงแผนการออกหุ้นกู้ที่ยังเหลือวงเงินจำนวน 5,000 ล้านบาท จากวงเงินรวมที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยเสนอขายได้ในช่วงปี 53-54 ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงินในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงอัตราดอกเบี้ยในตลาด