นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI)คาดว่าจะระดมทุนวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทภายในไตรมาส 3/53 ด้วยการเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้ และ กู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยเลือกกลุ่มของ บล.ภัทร(PHATRA) มอร์แกนสแตนเลย์ และ ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนครั้งนี้
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้ กระทรวงการคลังยืนยันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าจะคงสัดส่วนหุ้นไว้ที่ 51%
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนราว 1.5 แสนล้านบาทในช่วงปี 53-57 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการของบริษัท ที่เหลือมาจากการระดมทุนเพิ่มเติมข้างต้น
การเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการขยายกิจการให้แข่งขันได้ในระยะยาวและมีเงินสดเพื่อใช้คืนหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในอนาคตอันใกล้ รวมทั้ง เป็นการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทให้แข็งแกร่ง คาดว่าหลังเพิ่มทุนอัตราหนี้สินต่อทุนจะเหลือ 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 เท่า และจะเพิ่มสภาพคล่องที่เหมาะสมให้มัเสถียรภาพทางการเงินในภาวะที่ธุรกิจสายการบินมีความผันผวนสูง
"ผมยังเห็นว่าในวันนี้ตลาดหุ้นบ้านเรายังถือว่าใช้ได้ ดัชนีตลาดหุ้นก็ถือว่าไม่เลวนัก สภาพคล่องในตลาดก็ยังสูง"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ในสว่นของการลงทุนระยะ 5 ปี บริษัทจะจัดหาเครื่องบิน 15 ลำ ซึ่งจะเป็นการซื้อเครื่องบินใหม่ 7 ลำ เช่าซื้อระยะยาว 5 ปีจำนวน 8 ลำ คาดว่าใน 2-3 เดือนจากนี้จะสามารถหาข้อสรุปในการจัดหาเครื่องบินทั้งหมดได้
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทว่า ในเดือนเม.ย.53 บริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และการปิดน่านฟ้ายุโรป ทำให้จำนวนผู้โดยสารขาเข้าลดลง อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)ลดลงมาเหลือกว่า 70% เมื่อเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อนจำนวนผู้โดยสารลดลงถึง 22% แต่หากเทียบกับ เม.ย.52 จำนวนผู้โดยสารไม่แตกต่างกัน เพราะช่วงดังกล่าวมีผลกระทบจากการชุมนุมเช่นกัน
ส่วนเดือน พ.ค.ก็เชื่อว่ายังมีผลกระทบต่อเนื่องจากการชุมนุมที่ยืดเยื้อและมีเหตุรุนแรง ซึ่งหลายประเทศประกาศเตือนการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งเป็นโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธการตลาดด้วยการดึงผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศไปท่องเที่ยวยังสถานที่อื่น แทนกรุงเทพ เช่น ภูเก็ต หรือประเทศใกล้เคียง ซึ่งจะเริ่มแผนการตลาดใหม่ในสัปดาห์หน้า และจะปรับใช้ในช่วงไตรมาส 2-ไตรมาส 3/53 จนกว่าจะมีการปรับตารางบินฤดูหนาว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทนยังคงเป้าหมายกำไรสุทธิในปีนี้ที่ 4 พันล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 2/53 ผลประกอบการอาจจะออกมาไม่ดีนัก แต่ในไตรมาส 1/53 ผลประกอบการดีกว่าที่คาดไว้มาก