ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 16.91 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,586.61 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,533.60-5,639.98 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากการที่เอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ เนื่องจากเศรษฐกิจสเปนชะลอตัวลง ซึ่งการลดอันดับเครดิตของสเปนมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เอสแอนด์พีได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของกรีซลงสู่ระดับไม่น่าลงทุน หรือระดับขยะ (junk status) และลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ขั้น สู่ระดับ A- จากระดับ A+ พร้อมกับให้แนวโน้มเป็นลบ
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนหลังจากบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี เปิดเผยกำไรสุทธิพุ่งขึ้นถึง 57% ในไตรมาสแรก อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ผลผลิตน้ำมันที่มากขึ้น และการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท โดยกำไรสุทธิของเชลล์อยู่ที่ 5.48 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นจาก 3.49 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หุ้นเชลล์ปิดพุ่ง 2.3% แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดลบ 0.6% หุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดร่วง 1.2% และหุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดร่วง 2%