(เพิ่มเติม) RATCH คาดสรุปลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่-เหมืองถ่านหินในเอเชียช่วง Q3/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 29, 2010 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) คาดว่าจะสรุปแผนลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในอาเซียนราวไตรมาส 3/53 ซึ่งกำลังเจรจาที่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม พร้อมกันนั้นก็จะสรุปแผนลงทุนเหมืองถ่านหินที่เจรจาในอินโดนีเซียและออสเตรเลียด้วย หลังจากนั้นบริษัทจะพิจารณาแผนระดมทุนที่เหมาะสม ซึ่งจะพิจารณาทางเลือกทั้งการออกหุ้นกู้ กู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือ เพิ่มทุน

"ภายในไตรมาส 3 นี้ เราน่าจะเห็นภาพ หรือได้ข้อสรุปการเจรจา อย่างน้อย 1 โครงการ ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล" นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH กล่าว

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 4 พันล้านบาท แต่หากต้องใช้เงินลงทุนพิ่มเติม บริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีความสามารถกู้เงินได้จำนวน 2.0-2.5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการออกหุ้นกู้จำนวน 7,500 ล้านบาท ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ที่ระดับ 0.6 เท่า รวมถึงอาจจะระดมทุนวิธีอื่น ได้แก่ การเพิ่มทุน

ส่วนแผนลงทุน 3 โครงการใหม่ในลาว 5 ปี วงเงินลงทุนราว 511 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น จะแบ่งการลงทุนเฉลี่ยปีละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 54 ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา (ถือหุ้น 40%) มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 (ถือหุ้น25%) มูลค่าโครงการ 1,015 ล้านเหรียญสหรัฐ และ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย (ถือหุ้น 25%) มูลค่าโครงการ 856 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายประจวบ อุชชิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวางแผนและการลงทุน RATCH กล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวจะทยอยลงทุนเฉลี่ยปีละ 100 ล้านเหรียญ ยังไม่ร่วมส่วนเงินกู้ โดยโครงการฯหงสาได้เริ่มไปบ้างแล้วในปีนี้ และคาดว่าจะดำเนินการเสร็จในปี 58

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีความคืบหน้าการก่อสร้าง 90% และจะทดสอบ ส.ค.53 คาดจ่ายไฟได้ในปลายพ.ย.หรือต้น ธ.ค.นี้ ขณะที่โครงการไซยบุรี บริษทมีความสนใจร่วมทุน โดยตามนนโยบายจะลงทุนอย่างน้อย 25%

นายนพพล คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/53 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/53 ที่มีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟ และค่าความพร้อมจ่ายไฟ(AP) ได้ใกล้เคียงกัน แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/52 แนวโน้มรายได้น่าจะดีขึ้น เพราะในปีนี้ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ประกอบกับ สภาพอากาศปีนี้ร้อนกว่าปีก่อน ซึ่งมีสภาพแล้ง อาจเป็นโอกาสให้มีการจ่ายไฟเพิ่มขึ้น

ส่วนการที่ภาครัฐจะพิจารณาทบทวนค่า ADDER สำหรับพลังงานทดแทน บริษทจะมีการทบทวนโครงการเหล่านี้ โดยคาดว่า 2-3 เดือนข้างหน้าน่าจะมีความชัดเจนจากก.พลังงาน บริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนแผนตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ