นายพิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเล็คโทรนิคส์(KCE) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 53 จะรักษาอัตรากำไรไม่ให้ต่ำกว่าไตรมาส 4/52 ที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24.7% และอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 8-9 ปีที่ระดับ 9.4%
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 53 ไว้ที่ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากปลายปีก่อน โดยยอดขายไตรมาส 1/53 สูงขึ้นจากไตรมาส 4/52 ที่มียอดขาย 1,729 ล้านบาท และสูงกว่าไตรมาส 1/52 ที่ทำยอดขายได้ 1.1 พันล้านบาท
และยังคาดว่าไตรมาส 2/53 ยอดขายก็จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปรับตัวขึ้นสู่งระดับสูงสุดในไตรมาส 3/53 ซึ่งปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของปี และมั่นใจว่าทั้งปี 53 จะทำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ในมือเข้ามาถึงไตรมาส 3/53 ส่วนใหญ่เป็นออร์เดอร์จากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
นายพิธาน กล่าวว่า ออร์เดอร์ส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากกลุ่มลูกค้าใหม่ เนื่องจากคู่แข่งหลายเจ้าปิดกิจการไปใช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในปี 52 โดยเฉพาะผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในเยอรมนี ทำให้บริษัทได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าของผู้ผลิตรายดังกล่าวเข้ามามาก ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง
นายบัญชา องค์โฆษิต กรรมการผู้จัดการ KCE กล่าวว่า ในเดือน ก.ค.นี้ บริษัทจะไปเปิดสำนักงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะหากเกิดวิกฤติครั้งหน้าก็อาจทำให้ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่นปิดกิจการไป ก็จะสร้างโอกาสให้กับบริษัทในการเข้ารับออร์เดอร์แทน โดยขณะนี้บริษัทได้เจรจากับลูกค้ารายใหญ่แล้ว 2 รายทั้งออร์เดอร์และราคา ได้แก่ เดนโซ่ และโตการิกะ ที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับค่ายโตโยต้า และก่อนหน้านี้ก็มีลูกค้าอยู่บ้างแล้วด้วย
"crisis ปี 09 ทำให้เราเรียนรู้เยอะเรื่องการกระจายลูกค้า อย่างตลาดรถยนต์ที่เราพยายามกระจายไป ขณะที่เศรษฐกิจแย่ ลูกค้ากลุ่มรถยนต์ไม่สามารถไปซื้อจากคนอื่นได้ทันที ก็เป็นข้อดีที่บริษัทไม่ถูกกดราคา และลูกค้าก็ไม่สามารถย้ายได้ แม้ว่าออร์เดอร์จะลดลง แต่ราคาไม่ถูกกด และยังสามารถกระจายไปตลาดอื่นได้ทั้งทีวี-คอมพิวเตอร์"นายบัญชา กล่าว