ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 122.05 จุด หลังตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 30, 2010 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงโมโตโรลา และไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐที่ปรับตัวลดลงด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 122.05 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 11,167.32 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.42 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 1,206.78 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 40.19 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 2,511.92 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.067 หมื่นล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 24 เม.ย. ร่วงลง 11,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 448,000 คน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเมินไว้ในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวันพุธว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งและตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนมี.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่ง ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 ปี และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 9.7% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทสหรัฐ รวมถึงโมโตโรลา และไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิล นอกจากนี้ บริษัทในประเทศอื่นๆก็รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นนี้ โดยบริษัท อาร์เซลอร์มิตตาล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก สามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาสแรกที่ระดับ 679 ล้านดอลลาร์ หลังจากขาดทุนในปีที่แล้ว

ขณะที่บริษัท ซีเมนส์ เอจี เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 48% สู่ระดับ 1.49 พันล้านยูโร เนื่องจากการลดต้นทุนของบริษัทช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลง พร้อมกันนั้นบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรสำหรับทั้งปี 2553 ด้วย

หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ปิดลบ 40 เซนต์ สู่ระดับ 52.88 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นบริษัท ปาล์ม อิงค์ ปิดพุ่ง 26% หลังจากมีข่าวว่าเอชพีบรรลุข้อตกลงซื้อบริษัท ปาล์ม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของสหรัฐ เป็นเงินมูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเอ็กซอนโมบิลปิดลบ 0.8% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกที่สูงขึ้นก็ตาม ขณะที่โมโตโรลาปิดพุ่ง 3.5% และหุ้นไทม์ วอเนอร์ เคเบิล ปิดบวก 7.6% หลังจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของทั้งสองบริษัท

นักลงทุนจับดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกปี 2553 และกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาสแรกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ