(เพิ่มเติม) IRPC หวังกำไรทั้งปี 53 โต 50% คาด GIM สูงกว่า 10 เหรียญฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 30, 2010 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC)เปิดเผยว่า ในปี 53 แนวโน้มการเติบโตของกำไรจะสูงกว่าปีก่อนมาก โดยบริษัทหวังว่ากำไรจะเติบโตได้สูงถึง 50% หลังจากช่วงไตรมาส 1/53 กำไรสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนแล้วราว 50%

การเติบโตของกำไรสุทธิของไตรมาส 1/53 มาจากอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ของธุรกิจปิโตรเคมี และค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมสูงขึ้นจากไตรมาส 4/52 ถึง 17% และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับต้นทุนวัตถุดิบ ABS สูงกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน การจัดงานเอ็กซ์โปส่งผลดีเพราะมีการจัดเป็นเวลาถึง 6 เดือน และในเดือน พ.ย.มีการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ที่จีน

บริษัทคาดว่าค่าการกลั่นรวม(GIM)ปีนี้จะสูงกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจาค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมยังสูงจากความต้องการใช้ปิโตรเคมี โดยเฉพาะเม็ดพลาสติกโพลิเมอร์สูงขึ้นตามอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษที่มีมาร์จิ้นสูง

ด้านโครงการฟีนิกซ์ ซึ่งประกอบด้วยการลงทุน 19 โครงการ มูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้อนุมัติไปแล้ว 7 โครงการ คาดว่าคณะกรรมการบริษัทจะอนุมัติทั้งหมดภายในปีนี้ และตั้งเป้าว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงปลายปี 54 โดยจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 55 คาดว่าจะเพิ่มกำไรจากผลการดำเนินงาน (EBIT) ได้อีก 350-380 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในช่วงปี 53 มีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งบริษัทสามารถใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ แต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 54 บริษัทเตรียมแผนออกหุ้นกู้ภายใต้วงเงินที่ขออนุมัติไว้ 2 หมื่นล้านบาท

โครงการขนาดใหญ่ที่รออนุมัติ คือ โครงการหน่วยผลิตโพรพิลีนมูลค่าลงทุน 700 ล้านเหรียญสหรัฐ กำลังการผลิต 2 แสนตัน ซึ่งโครงการนี้ใช้เงินลงทุนมากกว่า 50% จากทั้งหมด 19 โครงการ และบริษัทมีความสนใจลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน โดยศึกษาการลงทุนโซลาร์ฟาร์มใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งบริษัทมีทีดินกว่า 2 พันไร่

“การลงทุนของบริษัทยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีแผนการควบรวมกิจการกับ PTTAR เพราะเชื่อว่าโครงการเหล่านี้มีประโยชน์และสร้างรายได้ให้บริษัท ด้านความคืบหน้าการควบรวมคงต้องไปถามผู้ถือหุ้นใหญ่คือปตท. แต่บริษัทมีความพร้อมและคดีค้างเก่าไม่น่ามีปัญหาเช่นเดียวกัน"นายไพรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทสนใจด้านพลังงานสะอาดทั้งพลังงานลมและโซล่าร์แล้วยังทำนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.วังจันทร์ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง รวมพื้นที่ 6 พันไร่ ซึ่งพร้อมพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมสะอาดครบวงจร โดยขณะนี้คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ได้อนุมัติแล้ว

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 220 เมกะวัตต์ ขณะนี้เดินหน้ากว่า 50% คาดว่าปลายปีจะแล้วเสร็จ ซึ่งหากโรงไฟฟ้านี้แล้วเสร็จจะช่วยในการลดค่าพลังงานเดือนละ 150 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ