บมจ.อาร์ซีแอล(RCL)ผู้ประกอบธุรกิจเดินเรือทะเลขนส่งตู้สินค้า คาดปี 53 จะพลิกฟื้นกลับมามีกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุนสูงถึงกว่า 3.8 พันล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 1/53 ยังขาดทุนแต่ก็ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เชื่อว่าไตรมาส 2/53 จะเริ่มเห็นตัวเลขกำไร หลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และการปรับขึ้นอัตราค่าระวางเรือ คาดว่าปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากโตประมาณ 10% จากปีก่อนที่ลดฮวบ 18% ยอมรับห่วงราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นกดดันกำไร
"ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษอะไรน่าจะเห็นตัวดำ(กำไร)ในสิ้นปีนี้ ไตรมาสแรกก็ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ก็ยังขาดทุนอยู่ แต่ในไตรมาส 2 หรือ 3 ก็คงจะได้เห็นตัวดำ...แค่ตัวดำได้ก็เก่งแล้ว"นายสุเมธ ตันธุวณิตย์ กรรมการผู้จัดการ RCL กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสุเมธ ยอมรับว่า ผลประกอบการปีที่แล้วถือว่าเป็นที่ตกต่ำมากในวงการธุรกิจเดินเรือ และปีนี้สถานการณ์ค่อยๆดีขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามภาวะรอบด้านให้ดี ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในกรีซ และการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
"ธุรกิจเรือใจร้อนไม่ได้...ตั้งแต่ทำธุรกิจยังไม่เคยเจอปัญหาเท่ากับปีทีแล้วจนทำให้บริษัทประสบผลขาดทุนจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 52 เป็นปีแรกที่ขาดทุนหนัก"นายสุเมธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/53 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/53 และไตรมาส 3/53 ก็คาดว่าจะมีผลประกอบการจะออกมาดีที่สุดของปี ซึ่งโดยปกติก็ไปเป็นเช่นนั้น แต่ในปีนี้จากภาวะเศรษฐกิจเริ่มจะเห็นการฟื้นตัวทุกอย่างเริ่มมีความมั่นใจ แต่จะเห็นชัดเจนในไตรมาส 2/53
จากผลที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว คาดว่าในปีนี้ปริมาณการขนส่งตู้สินค้าน่าจะเติบโตได้ 10% ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับขึ้นอัตราค่าระวางเรือไปแล้ว 20% เทียบกับจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญลูกค้าโดยคัดสรรลูกค้าเพิ่มขึ้น
"ตอนนี้เราไม่เน้นจำนวนเยอะ เราเน้นว่า ขนแล้วต้องกำไร โดยขณะนี้ค่าระวางเรือเพิ่มขึ้น 20% จากต่ำสุดในปีที่แล้ว โดยเราเลือกลูกค้า และเพิ่มค่าระวางเรือ"นายสุเมธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่บริษัทปรับขึ้นอัตราค่าระวางเรือส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้น แม้จะปรับขึ้นราคาได้ตามต้นทุนน้ำมัน แต่เนื่องจากน้ำมันเป็นต้นทุนหลัก คือ ประมาณ 30-40% ของต้นทุนทั้งหมด ทำให้บริษัทเกรงงว่าหากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทได้
"ค่าน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายเราสูงขึ้น กดดันกำไรแน่นอน...ตอนนี้ค่าระวางเรือได้ 20% จากการขยับขึ้นเมื่อต้นปี แต่ทั้งปีก็ยังไมรู้ เราเน้นราคา(ค่าระวางเรือ)มากกว่าส่วนแบ่งตลาด แต่ในที่สุดทุกคนก็ใช้วิธีเดียวกัน ตอนนี้ก็ดูยังใกล้เคียง แต่ตัวเลขยังไม่แน่ เพราะแค่ไตรมาสแรกเอง ต้องรอหลังไตรมาสสองถึงพอจะบอกได้"นายสุเมธ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ RCL กล่าวว่า บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน โดยเข้าซื้อล่วงหน้าบางส่วน ขณะที่นโยบายของบริษัทให้ซื้อได้ไม่เกิน 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันที่ใช้
"ตอนนี้เราก็ซื้อล่วงหน้าเป็น 3-4 เดือน ค่าระวางเรือก็ปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ปีที่แล้วน้ำมันขึ้น ค่าระวางเรือลง แต่ในปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้นค้าขายก็มีมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะ manage อย่างไร ไม่ใช่หลับหูหลับตาฆ่ากันอย่างเดียว หรือตัดราคา ส่วนการเมืองไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก"นายสุเมธ กล่าว
สำหรับการลงทุนในปีนี้ บริษัทจะไม่ลงทุนอะไรเพิ่ม โดยจะยังคงใช้เรือคอนเทนเนอร์ที่มีอยู่ 42 ลำให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งอัตราการใช้เรือดีขึ้นกว่าปีก่อน และคาดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ก็ยังไม่มีแผนการขายเรือเก่าออกไป
นายสุเมธ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา 12 บาทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา( 30 เม.ย.) โดยจำนวนหุ้นเพิ่มทุน 165.75 ล้านหุ้น คาดว่าจะได้รับเงินประมาณเกือบ 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปเสริมสภาพคล่องและให้ลดอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ลงจากปัจจุบันที่มีกว่า 1.3 เท่า
อนึ่ง บริษัทจะเปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในวันที่ 31 พ.ค.- 4 มิ.ย. โดยผู้ถือหุ้นเดิมจะซื้อได้ตามสัดส่วน ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
ราคาหุ้น RCL เคลื่อนไหวที่ 12.90 บาท + 0.40 หรือ บวก 3.20 บาท (เมื่อเวลา 11.46 น.)