ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 58.65 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 6, 2010 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูเหตุการณ์ที่ประชาชนชาวกรีซชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลกรีซกำหนดขึ้นเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และติดตามดูตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 58.65 จุด ปิดที่ระดับ 10868.12 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่ 1165.87 จุด ลดลง 7.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ 2402.29 จุด ลดลง 21.96 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.5 พันล้านหุ้น ซึ่งทรงตัวจากระดับของวันอังคาร มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่าจำนวนเงินกู้ฉุกเฉินที่ชาติยุโรปมีมติช่วยเหลือกรีซเพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณนั้นจะเพียงพอหรือไม่ อีกทั้งกังวลว่าสเปนจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือและอาจต้องขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูเหตุการณ์ที่ประชาชนชาวกรีซชุมนุมประท้วงในกรุงเอเธนส์ เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลกรีซกำหนดขึ้นเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ โดยมีรายงานว่าการประท้วงครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมประท้วงส่วนใหญ่เป็นสหภาพแรงงานภาครัฐที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเงินเดือนที่ลดลงภายใต้มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล นอกจากนี้ คาดว่าสถานการณ์การชุมนุมอาจรุนแรงมากขึ้น เมื่อกลุ่มลูกจ้างบริษัทเอกชนเข้าร่วมประท้วงกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ด้านนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติวงเงินช่วยเหลือ 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่กรีซ เนื่องจากรัฐบาลกรีซกำลังแบกรับภาระหนี้สาธารณะจำนวน 3 แสนล้านยูโร หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทำให้รัฐบาลต้องประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้กรีซลดภาระหนี้สินได้ 3 หมื่นล้านยูโรในอีก 3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้มีรายงานว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตรียมลดอันดับความน่าเชื่อถือโปรตุเกส โดยเตือนว่าหากรัฐบาลโปรตุเกสไม่เร่งเสริมสถานะการคลังให้แข็งแกร่ง มูดีส์ก็อาจลดอันดับเครดิตของโปรตุเกสลง 2 ขั้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยหุ้นอ็อคซิเดนทัล ปิโตรเลียม คอร์ป ปิดลบ 4.2% ส่วนหุ้นเบสท์บาย โค ปิดลบ 3.7%

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มการจ้างงานในเดือนเม.ย. 32,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ