EPFR Global องค์กรวิจัยที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกองทุนทั่วโลก เปิดเผยว่า นักลงทุนได้ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดหุ้นยุโรปมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ค. ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินที่ไหลออกนอกตลาดมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซจะลุกลามในวงกว้าง
"ความเสียหายที่เกิดจากปัญหาด้านการคลังของกรีซอาจส่งผลกระทบต่องบดุลของธนาคารพาณิชย์ แนวโน้มการขยายตัวของยุโรป และความสามารถในการรับมือกับตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพ.ค." EPFR Global ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าว
ดัชนี European Stoxx 600 ดิ่งลง 1.5% สู่ระดับ 246.90 จุดเมื่อวานนี้ ทำสถิติดิ่งลงติดต่อกัน 3 วัน ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปหายไปถึง 3.40 แสนล้านยูโร หรือ 4.31 แสนล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สินของกรีซอาจลุกลามจนส่งผลกระทบไปถึงสเปน และโปรตุเกส
ข้อมูลของ EPFR Global บ่งชี้ว่า กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์นำเงินเข้าลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มอิควิตี้ฟันด์ของจีนถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้นยุโรปในระดับปานกลาง และกลุ่มอิควิตี้ฟันด์จากละตินอเมริกาถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้นยุโรปสูงสุดในรอบ 45 สัปดาห์
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรปส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนัก โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง 998.5 จุด หรือ 9.19% สู่ระดับต่ำกว่า 10,000 จุดในระหว่างวัน ซึ่งเป็นการร่วงลงในระหว่างวันที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดที่ระดับ 10520.32 จุด ลดลง 347.80 จุด