คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) วางแผนที่จะเข้าตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานว่ามีนักลงทุนอยู่เบื้องหลังการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) หรือ มีการเก็งกำไรอย่างผิดกฎหมายจนทำให้เกิดภาวะผันผวนในตลาดหรือไม่
SEC พุ่งเป้าที่จะหาคำตอบว่ามีนักลงทุนเข้าไปส่งคำสั่งซื้อขายอย่างตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจ จนส่งผลกระทบต่อระบบการซื้อขายหรือไม่ นอกจากนี้ SEC จะตรวจสอบว่ามีบริษัทใดหรือนักลงทุนกลุ่มใดเข้ามาสกัดกั้นการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหรือไม่
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง 998.5 จุด หรือ 9.19% สู่ระดับต่ำกว่า 10,000 จุดในระหว่างวัน ซึ่งเป็นการร่วงลงในระหว่างวันที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดที่ระดับ 10520.32 จุด ลดลง 347.80 จุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดิ่งลงอย่างหนักทุกตลาดในวันนี้
นายริช อดาโมนิส โฆษกตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดเผยว่า การที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักในระหว่างวันอาจเกิดจากความผิดพลาดด้านการซื้อขาย ขณะที่เทรดเดอร์หลายคนเชื่อว่า ความผิดปกติที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจเป็นเพราะมีการเทขายหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ออกมาอย่างหนัก ซึ่งหุ้นดังกล่าวเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีน้ำหนักมากในดัชนีดาวโจนส์ ขณะที่ทาง P&G กล่าวว่าทางบริษัทกำลังตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัท และได้ประสานงานไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐแล้ว
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานโดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า มีหุ้น 8 ตัวที่ถูกกระหน่ำขายจนราคาร่วงลงสู่ระดับ 0 หรือ 1 เซนต์ ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นธุรกรรมการซื้อขายที่ "ผิดปกติ"