โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.สมบูรณ์ แอ็ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT)พร้อมปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 และราคาเป้าหมายใหม่ หลังคาดว่าจะประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/53 สูงเป็นประวัติการณ์ เป็นประมาณ 194-195 ล้านบาท จากไตรมาส 4/52 ที่มีกำไร 191 ล้านบาท และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 25.38 ล้านบาท รับผลดีจากอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตต่อเนื่อง
ผู้บริหาร SAT ยังเชื่อว่าผลประกอบการจะทำนิวไฮอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3/53 หลังจากอ่อนตัวลงไปบ้างในไตรมาส 2/53 พร้อมทั้งคาดยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ 1.45 ล้านคัน สูงกว่าโบรกเกอร์คาดไว้ที่ 1.2 ล้านคัน ทำให้โบรกเกอร์ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิของ SAT ทั้งปี 53 ใหม่ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 620-753 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท และโบรกเกอร์บางรายได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้น SAT เพิ่มขึ้นด้วย
ราคาหุ้น SAT เช้านี้ปิดที่ 17.20 บาท ลดลง 0.30 บาท(-1.71%) โดยราคาหุ้นได้แตะจุดสูงสุดที่ 17.90 บาท เมื่อ 7 เม.ย.53 ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ซื้อ 25.50 บล.เคจีไอ ซื้อ 22.70 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 22.00 บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 21.40 บล.กิมเอ็ง ซื้อ 20.00
น.ส.ระวีนุช ปิยะเกรียงไกร นักวิเคราะห์ จาก บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)คาดว่า ไตรมาส 1/53 จะมีกำไรสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 194 ล้านบาท จากไตรมาส 4/52 ที่มีกำไรสุทธิ 191 ล้านบาท และ 25 ล้านบาทในไตรมาส 1/52
"คาดการณ์ว่าในไตรมาส 1/53 ผลกำไรจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 เพราะยอดขายรถยนต์กลับมาดี และมาร์จิ้นของบริษัทก็คงยังอยู่ในระดับสูงอยุ่ ส่วนในไตรมาส 2 ปกติกำไรจะชะลอเพราะมีวันหยุดยาว แต่เราก็มองว่ากำไรในไตรมาส 3 ก็จะกลับมาดี ฟื้นอีกครั้ง"น.ส.ระวีนุช กล่าว
ดังนั้น จึงได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 53 เป็น 682 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% จากเดิมคาดไว้ 603 ล้านบาท หลังจากที่ได้ฟังผู้บริหารวานนี้ที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มดีขึ้น และมาจากยอดขายรถยนต์ที่เติบโต โดยออเดอร์ในมือเป็นไปตามที่ได้รับ ทั้งนี้ผู้บริหารให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 53 จะสูงถึง 1.45 ล้านคัน แบ่งเป็น 6.0-6.5 แสนคันสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศ และ 8 แสนคันสำหรับตลาดส่งออก ซึ่งสูงกว่าประมาณการของบล.เคจีไอ ที่ 1.2 ล้านคัน
"เรามีมุมมองเป็นบวกในอุตสาหกรรมรถยนต์มากขึ้น ฉะนั้นออเดอร์ที่ลูกค้า wait and see ก็อาจจะมีการสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาด้วย เพราะตลาดในประเทศก็โตดี ส่วนยอดของคูโบค้าจะเข้ามาครึ่งปีหลังตามตารางการผลิต ก็จะเป็นปัจจัยบวดครึ่งปีหลัง"น.ส.ระวีนุช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นช่วงสั้นปรับตัวลง ก็ส่งผลให้ราคาหุ้น SAT ปรับตัวลงตามตลาดไปด้วย แต่มองใน ระยะยาวหรือภายในปีนี้เห็นอัตราการเติบโตกำไรค่อนข้างเด่น และในส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะดีทั้งครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลัง เพราะฉะนั้นถึอลงทุนในระยะยาวยังได้
ด้านนายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดว่า กำไรสุทธิของ SAT ในไตรมาส 1/53 จะออกมาดีกว่าคาดมาก และทำนิวไฮ เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ และผู้บริหาร SAT ชี้แจงว่าไตรมาส 3/53 น่าจะทำนิวไฮอีก จากออเดอร์ที่มีอยู่ในมือ ส่วนไตรมาส 2/53 ชะลอตัว
นอกจากนี้ ยังคงประเมินผลประกอบการในปีนี้แบบอนุรักษ์นิยม โดยประเมินยอดขายในปีนี้เท่ากับ 5,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน และประเมินอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับดีขึ้นเป็น 21.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 17.9% ทำให้กำไรในปี 53 คาดจะสูงถึง 620 ล้านบาท(กำไรต่อหุ้น 2.07 บาท)เพิ่มขึ้น 97% ตัวเลขคาดการณ์กำไรไตรมาสแรกคิดเป็น 32% ของประมาณการทั้งปี จากคำสั่งซื้อในมือ
จากแนวโน้มกำไรในปีนี้น่าจะมากกว่าเราคาดมาก จึงปรับราคาเหมาะสมขึ้นอีกเป็น 20 บาท บนพื้นฐานค่า P/E ปี 53 เท่ากับ 10 เท่า ปรับขึ้นจากเดิม 18.50 บาท และยังแนะนำ"ซื้อ"
นักวิเคราะห์ จาก บล.เอเซียพลัส มองว่า SAT เป็นหุ้น top pick ของกลุ่มยานยนต์ เพราะปีนี้ที่เห็นผลประกอบการ turnarond ที่ชัดเจน จากปี 52 ที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤติยานยนต์ โดยเห็นสัญญาณตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ปีก่อน และกำไรปกติในไตรมาส 1/53 ก็จะ peak ที่ 195 ล้านบาท ซึ่งดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 เพราะยอดขายเพิ่มขึ้นและแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง
แม้แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/53 จะอ่อนตัวลงจากไตรมาส 1/53 เนื่องจากมีช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทำให้จำนวนวันผลิตลดลง แต่เชื่อว่าบริษัทน่าจะยังรักษาฐานกำไรได้ที่ 150-180 ล้านบาท โดยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติยานยนต์ทำให้งวดดังกล่าวมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 1.7 ล้านบาท
ขณะที่ภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันฟื้นตัวดีขึ้นมากจากแรงสนับสนุนของทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ประกอบกับบริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากชิ้นส่วนใหม่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะมาช่วยหนุนยอดขายและกำไร ทั้งปี 53 คงประเมินยอดขาย 5.67 พันล้านบาท เติบโต 32% yoy และกำไร 660 ล้านบาท ขยายตัว 2 เท่าตัวจากปี 52 ที่มีกำไร 308 ล้านบาท
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย(SCRI)คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/53 ของ SAT จะเท่ากับ 195 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า จากยอดขายที่เติบโตตามยอดผลิตรถยนต์ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ยังอยู่ในระดับที่สูง SCRI ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตมากกว่าที่คาดไว้เดิม
ดังนั้น จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 53 ของ SAT ขึ้นจากเดิม 50% เป็น 753 ล้านบาท และคาด SAT จะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ในปีนีหุ้นละ 0.75 บาท (Dividend Yield 4.3%)