ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินของกรีซจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลการเลือกตั้งของอังกฤษที่บ่งชี้ว่าไม่มีพรรคใดได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 137.97 จุด หรือ 2.6% ปิดที่ 5,123.02 จุด
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ แม้สภาล่างแห่งรัฐสภาเยอรมนีมีมติด้วยคะแนน 390 ต่อ 72 เสียง อนุมัติเงินกู้จำนวน 2.24 หมื่นล้านยูโร (2.91 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือกรีซก็ตาม
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังซบเซาลงหลังจากผลการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษนิยมของนายเดวิด คาเมรอน คว้าชัยชนะเหนือพรรคแรงงานของนายกอร์ดอน บราวน์ แต่เป็นชัยชนะที่ไม่ขาดลอยและทำให้เกิดภาวะไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี
หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 5.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสแรกปีนี้มูลค่า 1.47 พันล้านปอนด์ สวนทางกับปีที่แล้วที่สามารถทำกำไรได้ 3.47 พันล้านปอนด์ ขณะที่หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดลบ 6% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดร่วง 5.5%
หุ้นบริติช แอร์เวยส์ ปิดร่วง 6.1% หลังจากมีข่าวว่าลูกเรือของบริติช แอร์เวย์ส ปฏิเสธข้อเสนอจากสายการบินที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่าจ้างและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งการปฏิเสธข้อเสนอครั้งนี้ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ลูกเรือจะนัดผละงานประท้วงอีกครั้ง หลังจากที่ได้เคยผละงานประท้วงเป็นเวลา 7 วันมาแล้วในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา