บล.กสิกรไทยและศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (10-14 พ.ค.) ดัชนีมีโอกาสปรับฐานอีก จากความกังวลต่อปัญหาหนี้ในยุโรปที่ทำให้นักลงทุนยังมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศที่มีความซับซ้อนยังอาจเป็นปัจจัยฉุดตลาดเช่นกัน
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม คงจะได้แก่ การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์สุดท้ายของตลาดหุ้นไทย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ในวันที่ 13 พ.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามความคืบหน้าประเด็นหนี้ของกรีซ ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก การปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 763 และ 740 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 772 และ 795 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 768.55 จุด ปรับตัวขึ้น 0.53% จาก 763.51 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ร่วงลง 4.22% จากสิ้นปี 2552 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 28.01% จาก 83,415.53 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 106,776.46 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจาก 16,683.11 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 35,592.15 ล้านบาท
โดยนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิที่ 6,839.96 ล้านบาท 4,545.24 ล้านบาท และ 1,008.39 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 12,393.59 ล้านบาท
ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 206.21 จุด ขยับขึ้น 0.53% จาก 205.13 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ร่วงลง 4.22% จากสิ้นปีก่อน