นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะรีบาวน์กลับมาได้ หลังการแก้ไขวิกฤตการเงินในยูโรโซนเริ่มชัดเจนขึ้นด้วยการจัดตั้งกองทุนร่วมกันแก้ปัญหาทั้งภูมิภาค เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนในประเทศกลับมาดีขึ้นตอบรับมาตรการช่วยเหลือกรีซ วันนี้น่าจะเห็นการทดสอบแนวต้านที่ 777 จุด ส่วนการเมืองในประเทศยังคงยืดเยื้อ แต่ตลาดให้น้ำหนักน้อยลง โบรกฯแนะระวังแรงขายต่างชาติอีกระยะหนึ่ง
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ามีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 777 จุด หลังจากความกังวลปัญหากรีซที่ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงไปก่อนหน้านี้ได้คลี่คลายลง เมื่อทางยูโรโซนมีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือแก้ไขวิกฤตการณ์ด้วยการจัดตั้งกองทุนแก้ไขปัญหาให้ประเทศต่างๆในยุโรป
ปัจจัยต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักในวันนี้ที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมารีบาวน์ได้ โดยจะเห็นได้จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางตัวเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ทองคำ ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นไทย เพราะยังคงยืดเยื้ออกไป แต่ไม่มีน้ำหนักมากนักในขณะนี้ วันนี้เน้นปัจจัยภายนอกประเทศมากกว่า
กลยุทธ์การลงทุนให้นักลงทุน Hold การลงทุนและถือหุ้นเพียง 60% ของพอร์ตลงทุน โดยให้กรอบแนวรับที่ 760 จุด แนวต้านที่ 777 จุด
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุว่า ในระยะสั้นคาดว่านักลงทุนต่างชาติ ซึ่งยังมียอดซื้อสุทธิสะสมอยู่ 2.6 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ต้นปี)จะยังระมัดระวังในการเข้าตลาดหุ้นไทย ไม่เพียงแต่ปัญหาหนี้สินในฝั่งยุโรปที่อาจกระจายตัว ทำให้สินทรัพย์การเงินทั่วโลกปรับฐานแรงในขณะนี้ แต่ยังมีปัญหาการเมืองที่เริ่มไม่แน่ว่าจะปรองดองได้ขนาดไหน หลังจากเหตุยิงระเบิดใส่เจ้าหน้าที่เมื่อคืนวันศุกร์ ขณะที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ยังคงอยู่
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเกือบตลอดนับจากที่มีการประกาศ พรก. ฉุกเฉิน และการขายลดความเสี่ยงดังกล่าวจะมีเป้าหมายหลักเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง เราพบว่าหุ้นกลุ่มก่อสร้างและพลังงานยังให้ผลตอบแทนดีกว่ากลุ่มหลักอื่นๆ จึงกลายเป็นว่าสองกลุ่มนี้มีโอกาสสูงจะเผชิญแรงขายในระยะสั้นๆ นี้
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,380.43 จุด ลดลง 139.89 จุด(-1.33%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,178.89 ล้านบาทล่าสุดเมื่อ 7 พ.ค.53
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 75.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.00
- รัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีมติจัดตั้งกองทุนทางการเงิน 600,000 ล้านยูโร (ประมาณ 30 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อสกัดไม่ให้วิฤติการเงินของกรีซลุกลามทั่วภูมิภาค และกระทบเสถียรภาพเงินสกุลยูโร โดยมติดังกล่าว มีขึ้นหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ช่วยเหลือกรีซ กู้เงิน 30,000 ล้านยูโร(ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) ระยะเวลา 3 ปี เพื่อยับยั้งวิกฤตหนี้ของกรีซ ไม่ให้ลูกลามไปยังประเทศอื่นในกลุ่มอียู
- นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. จะแถลงท่าทีถึงแนวทางการดำเนินการทางการเมืองต่อไปในช่วง 10 โมงเช้าของวันนี้
- บล.ทิสโก้ เตรียมนำ บจ.ไทย 7 แห่ง โรดโชว์สิงคโปร์ พบนักลงทุนสถาบันทั่วโลก 1,500 คน หวังดึงเม้ดเงินต่างชาติลงทุนตลาดหุ้นไทย 'ไพบูลย์' ชี้หากกรีซอัดเม็ดเงินแก้ไขปัญหา หนุนเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนตลาดหุ้นเอเชียรอบใหญ่
- ก.คลัง-แบงก์ชาติ จับตาใกล้ชิดผลกระทบ วิกฤติหนี้สาธารณะกรีซ ผอ.สำนักนโยบาย ศก.มหภาค"เอกนิติ"แจงโลกติดเชื้อหนี้กรีซ 3 ด้าน 1.ส่งออก ที่ยังอยู่ในวงจำกัด เว้นเสียแต่ ผลจะลามทั่วยุโรป 2.สถาบันการเงินที่เข้าไปลงทุนในกรีซ และ 3.ผลกระทบจากความเสี่ยงด้านลงทุน ผู้ว่าการแบงก์ชาติ"ธาริษา"ออกโรงยันไม่พบสถาบันการเงินไทยไปลงทุน พร้อมดูแลเสถียรภาพค่าเงิน รับมือวิกฤติลามฉุดความเชื่อ
- คณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ปัญหามาบตาพุด ระบุว่าวันนี้ที่ประชุมจะหารือ ถึงประเภทกิจการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาข้อสรุป เบื้องต้นคาดว่าจะมี 22 ประเภทกิจการ