นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ภัทร (PHATRA) เปิดเผยว่า หากการชุมนุมทางการเมืองยุติ เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อขายหุ้น ซึ่งจะส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศของบริษัท จากปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 20%ของพอร์ตลงทุนรวม เพิ่มจากปีก่อนอยู่ที่ 19%
และหากปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นมีทิศทางที่ดีขึ้นและมีเม็ดเงินลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะจากสถาบันต่างประเทศที่มีสัดส่วนการลงทุนมากกว่าพอร์ตการลงทุนปัจจุบัน จะมีโอกาสผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ของบริษัทในปี 53 เพิ่มขึ้นเป็น 6% สูงกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ที่ 5%
นายอภินันท์ กล่าวว่า ภาพรวมปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในไตรมาส 2/53 มีทิศทางที่ดีขึ้น แต่การเพิ่มพอร์ตการลงทุนของบริษัทต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ต้องรอให้ทรงตัวอีกระยะ โดยในส่วนพอร์ตการลงทุนหุ้นระยะยาว บริษัทได้มีการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 53 ที่ผ่านมา จำนวน 1.2 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 พันล้านบาท จากวงเงินพอร์ตลงทุนระยะยาวทั้งหมด 1.5 พันล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือจะต้องมีการประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองอีกระยะ ก่อนจะเพิ่มการลงทุน
"เท่าที่ประเมินดูสถานการณ์ในไตรมาส 2 วอลุ่มน่าจะมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อโบรกเกอร์ รวมถึงบริษัทเรา จะได้รับอานิสงก์ของการกลับเข้ามาซื้อขายของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเพิ่มขึ้น และหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ แต่ตอนนี้เรายังมองมาร์เก็ตแชร์ที่ 5%" นายอภินันท์ กล่าว
สำหรับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป ขณะนี้ยังประเมินได้ยาก แต่เชื่อว่าเม็ดเงินที่ไหลออกนอกประเทศ จะกลับเข้ามาลงทุน โดยยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกบ้างจากปัญหาการเมืองในประเทศและปัญหายุโรป แต่โดยรวมนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอยู่